“สุดารัตน์” ย้อนเล่า 16 ปีสึนามิ สมัยนั่ง รมว.สาธารณสุข ชี้ เป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน คนจำนวนมากถูกคลื่นยักษ์คร่าทั้งชีวิตและสูญหาย

วันที่ 27 ธ.ค. 2563 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความย้อนระลึกถึงเหตุการณ์ 16 ปีสึนามิ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ว่า เมื่อวานนี้ ครบรอบ 16 ปี สึนามิ จำได้แม่นยำถึงทุกความรู้สึกและทุกเหตุการณ์ในห้วงเวลานั้น พี่น้องประชาชนจำนวนมากต้องประสบกับความสูญเสีย คลื่นยักษ์คร่าทั้งชีวิตและสูญหายอีกเป็นจำนวนมาก เกิดเด็กกำพร้าในหลายพื้นที่ ทว่าในห้วงเวลานั้น พลังของบุคลากรทางการแพทย์ หน่วยกู้ภัยและกำลังใจจากพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ทำให้เราผ่านพ้นวิกฤติไปได้

คุณหญิงสุดารัตน์ เล่าต่อไปว่า เช้าวันเกิดเหตุ 26 ธ.ค. 2547 ไปเป็นประธานเปิดงานสร้างสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่สวนรถไฟ เมื่อทราบข่าวก็รีบให้รถออกเดินทางจากงานไปขึ้นเครื่องในทันทีเพื่อไปลงสนามบินภูเก็ต ด้วยความรีบเร่งระหว่างเดินไปขึ้นรถตนถูกรถเฉี่ยวทำให้แขนเจ็บ แต่ไม่มีเวลาไปโรงพยาบาลต้องรีบไปที่หน้างานให้เร็วที่สุด จึงใช้น้ำแข็งประคบบนเครื่องบินตลอดทางเพราะปวดมาก เมื่อมาถึงภูเก็ตนั่งรถไปโรงพยาบาลป่าตอง ตั้งใจจะให้หมอดูแขนที่เจ็บ แต่เมื่อมาถึงก็ต้องช็อกกับสภาพห้องฉุกเฉินที่เต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บทั้งคนไทยและต่างชาติ รวมถึงศพจำนวนมากที่แออัดกันอยู่ในห้อง จนลืมความเจ็บปวดที่แขน จากนั้นเร่งวางระบบกับบุคลากรทางการแพทย์ทั้งจากในพื้นที่และนอกพื้นที่เพื่อให้สามารถรับมือและบริหารจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด

...

วันที่ 27 ธ.ค. 2547 ตนและทีมงานเดินทางเข้าพื้นที่เขาหลัก จ.พังงา ภารกิจครั้งนั้นคือการช่วยเหลือกู้ภัย ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่มีผู้เสียชีวิตและสูญหายมากที่สุด สภาพความเสียหายนั้นหนักหนากว่าที่คิดไว้ ระหว่างที่เดินสำรวจ พบผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ภาพความสูญเสีย ทั้งชีวิตของผู้คน ทรัพย์สิน และน้ำตาของครอบครัวที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันเป็นที่รักไป มีอยู่ให้เห็นในทุกที่ที่ไป ซึ่งภารกิจหลักที่หน่อยได้รับมอบหมาย คือภารกิจกู้ชีพ ค้นหาผู้รอดชีวิต ทั้งที่ติดอยู่บนบกและในทะเล รวมทั้งที่ถูกโคลนท่วมทับอยู่ เราเร่งวางระบบกับบุคลากรทางการแพทย์ และทีมกู้ภัยทั้งจากในพื้นที่และนอกพื้นที่เพื่อให้สามารถรับมือและบริหารจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด และปักหลักอยู่ต่อกันอีกเป็นเดือนเพื่อค้นหาศพผู้ที่สูญหาย และพาร่างไร้วิญญาณกว่า 3,000 ศพ กลับคืนสู่ครอบครัวอันเป็นที่รัก

“สึนามิ เป็นความทรงจำที่ในชีวิตนี้หน่อยไม่มีวันลืมเลือน นอกจากร่วมรำลึกถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นในพื้นที่แล้ว สึนามิยังย้ำถึงศักยภาพของทีมคนทำงานจากทุกภาคส่วนในการตอบสนองต่อวิกฤติด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ที่น่าจดจำอีกเรื่องหนึ่ง คือให้หลังจากเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ เราฟื้นความเชื่อมั่นกลับคืนสู่พื้นที่เกิดภัยโดยใช้เวลาเพียงครึ่งปีเท่านั้น เราสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เราเชื้อเชิญพวกเขากลับคืนสู่ประเทศไทยได้สำเร็จ ทำให้เราได้เห็นรอยยิ้มของพี่น้องคนไทยอีกครั้ง”