“ประยุทธ์” ท้าฝ่ายค้านซักฟอก ลั่นไม่ใช่คนใจอ่อนไม่มีช็อก เด็ก พปชร.หยันแก้รอยร้าวใน พท.ให้ได้ก่อน “เสรีพิศุทธ์” จองกฐินขยี้นายกฯพักบ้านหลวง พ่วงขย่ม “ธรรมนัส” ประเคนที่ดิน ส.ป.ก.เอื้อเอกชน ฟันธง กก.สมานฉันท์ไปไม่รอด “ชวน” คาดสัปดาห์นี้ได้รายชื่อ กก.ปรองดอง ปชป.เซ็งรัฐบาลส่อคว่ำกระดาน ส่งตัวป่วน “แรมโบ้-ธนกร” ร่วมวง แต่กลับตัดทิ้ง “เทอดพงษ์” ตัวแทนพรรค ทั้งที่อาวุโส ประสบการณ์สูงและประนีประนอม “จิรัฏฐ์” เหน็บยอมใจยกนิ้วให้นายกฯไทยแจ้งจับเด็ก หน.เสรีรวมไทยจวกเจอมาแล้ว ม.112 กลั่นแกล้งกันได้ แนะปรับ ก.ม.แยกกรณีดูหมิ่นไปไว้ในมาตรา 326 ให้เหลือเฉพาะอาฆาตมาดร้ายสถาบัน การ์ดม็อบ 3 นิ้ว งงไม่เคยจับไมค์ขึ้นเวทียังโดน “อานนท์” ไป สน.บางโพ รับทราบข้อหาเผยเจอ ม.112 รวม 4 คดี กร้าวปี 64 ชุมนุมเข้มข้นสู้กันยาวๆเปลี่ยนสังคม

จากกรณีที่พรรคเพื่อไทยโหมโรงเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ช่วงเดือน ก.พ.64 โดยระบุมีข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับช็อก ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุไม่มีการช็อก เพราะไม่ใช่คนใจอ่อนและมีข้อเท็จจริงอยู่แล้ว

...

“บิ๊กตู่” ฟิตคุยงานหลังหยุดยาว 4 วัน

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 14 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล หลังหยุดยาว 4 วัน โดยขบวนรถนายกฯเข้าทางประตู สะพานอรทัย จากปกติใช้เส้นทางสะพานชมัยมรุเชฐ เนื่องจากกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ยังคงปักหลักชุมนุมคัดค้าน “โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ” ต่อมาเวลา 11.30 น. เพจเฟซบุ๊กประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha โพสต์ภาพนายกฯประชุมหารือร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกฯ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมโพสต์ข้อความว่า “หาแนวทางพัฒนา และขยายตลาด e-commerce ของไทยให้มี platform และรูปแบบใหม่ๆ”

เตือนอย่าใช้อารมณ์เขียนในโซเชียล

ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่สโมสรทหารบก พล.อ. ประยุทธ์ เป็นประธานพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2563 โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลพยายามปลดล็อกให้ดำเนินการด้านต่างๆได้ พร้อมอำนวยความสะดวก หัวใจสำคัญอยู่ที่การขับเคลื่อนที่เกิดจากคุณภาพ ศักยภาพ และความเข้มแข็ง ฝากให้ความสำคัญ เรื่องสิทธิมนุษยชนในการประกอบการธุรกิจ เพื่อไม่ให้มีใครได้รับผลกระทบ และช่วยลด PM 2.5 การทำงานไม่ใช่เรื่องง่าย หลายอย่างอาจช้าอยู่หรือเร็ว แต่รัฐบาล จะเร่งรัดให้ หากมีปัญหาอะไรก็พูดคุยมา พร้อมรับฟังและดำเนินการให้ วันนี้โลกโซเชียลมีอะไรต่างๆมาก มี 2 ประเภท ประเภทแรกคือใช้อารมณ์เขียน ประเภทที่สองเขียนด้วยหลักการ เหตุผลและข้อมูล ตนให้ความสำคัญติดตามเรื่องใดที่ควรให้ความสำคัญ ต้องพิจารณาไม่เช่นนั้น ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ต้องช่วยกันทำให้ประเทศชาติผ่านวิกฤติไปให้ได้โดยเร็ว ขอร้องว่าอย่าทำลายสิ่งที่กำลังดีขึ้นนี้เลย เรามีเรื่องดีเยอะแยะในประเทศเรา ลองทบทวนดูว่าที่ผ่านมาเราทำอะไรไปแล้วบ้าง ถ้าเราไม่หาส่วนที่ดีๆ มองหาแต่ส่วนที่ไม่ดี จะเจอแต่สิ่งไม่ดี ต้องช่วยกันแก้ไข เพราะเป็นอุปสรรคและความเสี่ยง ต้องมองภาพรวมของประเทศและประชาชน

ปรับความคิดคนทุกรุ่นร่วมกันเดิน

นายกฯกล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือฐานข้อมูลที่ถูกต้อง เรากำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน แน่นอนต้องมีปัญหายุ่งยากหลายประการ แต่สิ่งที่จะทำให้ผ่านพ้นปัญหาได้คือพูดคุยกัน เอาสิ่งที่ทำได้มาพูดคุยกันก่อน สิ่งที่ดีๆ ถือเป็นกำลังใจให้ตนเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประเทศต่อไป สิ่งสำคัญที่คำนึงถึงคือประชาชนของเรา วันนี้คิดว่าไม่กี่คนที่เป็นเบบี้-บูมเมอร์ ต้องปรับตัวเป็นเจเนอเรชัน ทั้งเจนเอ็กซ์ เจนวาย เจนแซด เราต้อง คิดแบบเขาแล้วนำมาคิดแบบเราว่าทำสองอย่างแล้วประเทศจะไปกันอย่างไร ถือเป็นอนาคตของประเทศ ไทยทุกคน เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และสถาบันที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน ทุกคนรู้อยู่แล้ว จึงขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนเข้มแข็ง ทั้งกายใจและปัญญา คิดใหม่ ทำใหม่ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง องค์กรและบุคลากร ประสบผลสำเร็จ

ลั่นไม่มีช็อกท้าฝ่ายค้านซักฟอก

เมื่อเวลา 14.40 น. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมเปิดศึกซักฟอกต้นปีหน้าว่า “ก็เปิดสิ จะซักฟอกอะไรก็ซักมา” ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านประกาศว่าอาจจะช็อกได้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมไม่ช็อกหรอก ผมไม่ใช่คนใจอ่อนขนาดนั้น พุทโธ่ ข้อเท็จจริงมีอยู่แล้ว”

เหน็บ“สุทิน”แก้รอยร้าว พท.ก่อนดีกว่า

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลช่วงเดือน ก.พ.64 ว่า รัฐบาลพร้อมชี้แจงในสภาฯไม่ได้วิตกกังวลอะไร มั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด บริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล เป็นเรื่องดีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้กลไกรัฐสภาตรวจสอบรัฐบาล ดีกว่าสนับสนุนม็อบชุมนุมปิดถนน ทำประชาชนเดือดร้อน ส่วนที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุประเด็นที่เตรียมไว้อภิปราย พล.อ.ประยุทธ์อาจช็อกได้นั้น คงแค่โหมโรงให้ดูน่ากลัว เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงได้หมด เป็นห่วงพรรคเพื่อไทยมากกว่าคงช็อกอยู่ เกรงอาจไม่สมราคาคุย เพราะพรรคเพื่อไทยกำลังมีความขัดแย้งภายในพรรค แกนนำหลายคนลาออก จนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯต้องออกโรงทวีตเรียกขวัญหลายครั้ง ไม่รู้สมาชิกพรรคจะมีกะจิตกะใจอภิปรายหรือไม่ อยากให้นายสุทินเอาเวลาไปประสานรอยร้าวภายในพรรคก่อนจะดีกว่า

“เสรีฯ” จ่อขยี้บ้านพักทหารขย่ม “บิ๊กตู่”

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมนี้ว่า ฝ่ายค้านยังไม่ได้เตรียมความพร้อมหรือหารือกัน เพราะกำลังพิจารณาเรื่องเร่งด่วนคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่มองประเด็นอภิปรายไว้เบื้องต้น เช่น การพักบ้านหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ให้กองทัพบกจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้ เบื้องต้นได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร จะเรียกอดีต ผบ.ทบ.และ ผบ.ทบ.มาชี้แจง รวมถึงลงพื้นที่จริงด้วย และยังมีประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ กรณีนำที่ดิน ส.ป.ก.ไปให้ภาคธุรกิจใช้ประโยชน์ การวางตัวผู้อภิปรายฝ่ายค้านต้องหารือ กันอีกครั้ง กรณีพำนักบ้านพักทหารของนายกฯคงต้องให้พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าของเรื่องในฐานะผู้ริเริ่มกรณีนี้ เผลอๆ คำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญอาจผิดก็ได้ เรื่องการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้พิจารณาตรงนี้ ถ้าตนเป็น พล.อ.ประยุทธ์จะลาออกไปนานแล้ว นอกจากนี้จะพิจารณาฟ้องนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯต่อศาลและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีไม่เป็นกลาง ที่ไม่ให้ตนอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ประเด็นถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ

ทายล่วงหน้า กก.สมานฉันท์ไปไม่รอด

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงการตั้งกรรมการปรองดองสมานฉันท์ว่า ดูแล้วตั้งกรรมการสมานฉันท์ไปไม่รอด ดูสัดส่วนแล้วเป็นเนื้อเดียวกันกับฝ่ายรัฐบาล เป็นของฝ่ายรัฐบาลหมด เช่น ส.ส.รัฐบาล ครม. ส.ว.จึงไม่ถูกต้องเป็นธรรมที่ฝ่ายค้านจะไปร่วมด้วย ถ้าจะให้สมานฉันท์ นายกฯต้องออกมาพูดให้ชัดเจนเลยว่าจะเอาอย่างไร เช่นจะอยู่อีกกี่ปี สมมติว่าจะอยู่ต่อ 1 ปีมาตกลงกันว่าทุกฝ่ายจะยอมหรือไม่ เพราะที่บอกว่าให้ถอยคนละก้าว แต่นายกฯเดินมาล้านก้าวแล้ว แต่ถอยก้าวเดียว การทำอะไรต้องถูกต้องเป็นธรรมและยุติธรรม

“ชวน” คาดสัปดาห์นี้ได้รายชื่อ

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงแรมรอยัล ริเวอร์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง ความคืบหน้ารายชื่อคณะกรรมการสมานฉันท์ว่า คาดว่าในสัปดาห์นี้น่าจะได้รายชื่อเกือบครบทั้งในส่วนรัฐบาล พรรคการเมือง และวุฒิสภา ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน วันที่ 16 ธ.ค.จะหารือกับผู้นำฝ่ายค้าน ภายหลังมีการอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง จะอธิบายเรื่องเสียงที่อาจเข้าใจว่าจะไม่สมดุลกันว่า เป็นการระดมตัวแทนองค์กร พรรคการเมือง สถาบัน เพื่อร่วมกันระดมสมองหาทางออกให้บ้านเมือง ไม่ได้ลงมติเพื่อเอาชนะกัน หากฝ่ายค้านเข้าร่วมได้จะเป็นเรื่องดี เพราะเป็นผู้มีประสบการณ์ ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ได้ ส่วนที่ฝ่ายค้านกังวลว่าเมื่อเข้ามาร่วมแล้วอาจไม่เป็นในทิศทางที่ต้องการ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ทุกคนเห็นเหมือนกันหมด แต่จะปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม โดยไม่คิดทำอะไรเลยดูเหมือนจะขาดความรับผิดชอบไปหน่อย บังเอิญเมื่อมีความเห็นว่าให้สภาฯเป็นผู้ทำต้องรับมา เมื่อรับมาแล้วพยายามทำเท่าที่จะทำได้ ไม่ใช่ว่าตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมาแล้วทุกอย่างจะจบ ถ้ามีการประชุมก่อนสิ้นปีสักครั้งจะเป็นประโยชน์

รบ.ส่งตัวจี๊ด “เเรมโบ้-ธนกร” ร่วมวง

รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นรัฐบาลได้วางตัวนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ให้มานั่งเป็นกรรมการสมานฉันท์ตามสัดส่วนโควตา 2 คน ของรัฐบาล โดยจะส่งชื่อภายในสัปดาห์นี้

ปชป.เซ็งรัฐบาลตัดชื่อ “เทอดพงษ์”

นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ว.ทำนายว่า นับเเต่ 1 เม.ย.64 ความปรองดองสมานฉันท์จะเกิดขึ้นชนิดไม่คาดฝันว่า การสร้างความสมานฉันท์มีความหวังสำเร็จได้จากความร่วมมือ ไม่จำเป็นต้องรอถึงเดือน เม.ย.64 ด้วยซ้ำ หากทุกฝ่ายจริงใจส่งรายชื่อบุคคลร่วมเป็นกรรมการสมานฉันท์ พรรคร่วมรัฐบาลต้องส่ง 2 คน ก่อนหน้านี้วิปรัฐบาลระบุพรรคร่วมรัฐบาลเสนอ 3 คน คือ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย และนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ รายชื่อที่เกินมาจะส่งในโควตารัฐบาลเเทน ล่าสุดเห็นว่าตัดชื่อนายเทอดพงษ์ออกไป ไม่ได้นำไปไว้ในโควตารัฐบาล ทั้งที่เป็น ส.ส.หลายสมัย มีประสบการณ์ ประนีประนอม ตัวแทนทุกฝ่ายไม่ว่าจะจากฝ่ายค้านหรือรัฐบาล จะบ่งบอกถึงธงและเป้าหมายแต่ละฝ่ายว่าต้องการให้เวทีปรองดองเดินหน้าหรือถอยหลัง หากมีฝ่ายใดจงใจส่งคนมาชวนทะเลาะหรือปั่นป่วน ทำให้เวทีที่หวังตั้งมาสร้างความปรองดองกลายเป็นเวทีปาหี่มีเเต่ความขัดเเย้ง ประชาชนจะรู้ทัน มวลชนทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่ยอมส่งตัวเเทนมาเข้าร่วม ถ้าเป็นจริงอย่างที่คนว่าต่อให้อีกกี่คำทำนาย การเริ่มต้นสร้างความปรองดองคงเดินหน้ายากแน่นอน

เห็นแววส่ง “ตัวป่วน” ส่อคว่ำกระดาน

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ เป็นตัวแทนเพราะเป็นผู้อาวุโสทางการเมือง มีสถานการณ์การเมืองมาหลายยุคหลายสมัย มีวุฒิภาวะทางการเมืองมากเพียงพอและประนีประนอม ไม่สร้างความขัดแย้งให้ฝ่ายใด อยากจะให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพึงใช้ความรอบคอบคัดสรรบุคคลที่มีบุคลิกในการสร้างความสมานฉันท์เกิดขึ้นให้ได้ ไม่อยากให้ส่งรายชื่อบุคคลที่มีแนวโน้มสร้างปัญหา จะแสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจของฝ่ายนั้น เห็นจากรายชื่อตัวแทนของบางพรรค ที่ปรากฏรายชื่อบุคคลที่เคยแสดงออกซึ่งความขัดแย้งในการประชุมสภาฯมาโดยตลอด พอจะประเมินหรือคาดการณ์ได้ว่า ส่งเข้ามาเพื่อความสมานฉันท์หรือเข้ามาสร้างการแดกดัน ให้วุ่นวายจนการสมานฉันท์เดินหน้าไปไม่ได้ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายจริงใจในการแก้ปัญหาของชาติบ้านเมือง เริ่มต้นจากส่งรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมกับการสร้างความสมานฉันท์ มาเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ตามมติที่ประชุมรัฐสภาตั้งความหวังไว้ และถ้าคณะกรรมการสมานฉันท์ทำหน้าที่ได้สำเร็จ จะลดความขัดแย้งทางการเมือง จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากมาย

“เสรีฯ” ซัด ม. 112 แกล้งกันได้เจอมาแล้ว

ที่พรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงกรณีม็อบราษฎรเรียกร้องการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า เชื่อว่าผู้ชุมนุมจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินคดีเข้าข้างผู้มีอำนาจ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว. กลาโหม เป็นปฏิปักษ์กับผู้ชุมนุมการดำเนินคดีจะไม่ให้ความเป็นธรรมแน่นอน เพราะมีอำนาจสั่งย้ายตำรวจฐานะประธาน ก.ตร. หากเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการกับแกนนำผู้ชุมนุม ในฐานะอดีต ผบ.ตร. ที่เคยบังคับใช้มาตรา 112 รวมถึงยังเคยถูกกลั่นแกล้งฟ้องดำเนินคดีจากมาตรา 112 เชื่อว่ากลั่นแกล้งได้ จะดำเนินการตามกฎหมายนี้รัฐบาลควรคิดให้รอบคอบ อย่าทำให้เสื่อมเสียต่อสถาบัน กองเชียร์คือตัวส่งเสริมและทำลายสถาบันฯ

ให้ปรับ ก.ม.แยกกรณีดูหมิ่นไปไว้ ม. 326

“มาตรา 112 ยังจำเป็นต้องมีอยู่ ใครทำผิดต้องรับผิด แต่อยากให้แก้ไขเนื้อหาแยกการดูหมิ่นออกไปไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ให้มาตรา 112 เหลือไว้เฉพาะการอาฆาตมาดร้ายสถาบัน จะช่วยป้องกันการกลั่นแกล้งดำเนินคดีได้ ทำให้สถาบันเสื่อมเสีย ผู้เสียหายต้องไปแจ้งความดำเนินคดีด้วยตัวเอง ไม่ใช่ใครก็ได้ไปแจ้งความเอาผิด ที่ผ่านมารัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ไม่เคยคิดใช้มาตรา 112 กับใคร เพราะไม่ต้องการให้ใครเดือดร้อน ทำไมรัฐบาลจึงดำเนินการเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยถูกดำเนินคดีมาตรานี้ แต่ลงจากอำนาจเมื่อใดอาจมีบุคคลอื่นดำเนินคดีกับ พล.อ.ประยุทธ์เรื่องนี้ก็ได้ เหมือนที่เคยกลั่นแกล้งคนอื่นไว้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

“จิรัฏฐ์” ยอมใจนายกฯไทยแจ้งจับเด็ก

นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ท้าทายฝ่ายให้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะซักฟอกอะไรก็ซักมา ไม่ช็อกไม่ใช่คนใจอ่อนว่า ต้องยอมใจจริงๆ คงไม่มีใครใจแข็งได้อย่างนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกแล้ว เพราะท่านใจแข็ง ถึงขนาดแจ้งจับเยาวชน อายุ 16-17 ปี ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใจแข็งถึงขั้นใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ทั่วโลกเขาเลิกใช้กันหมดแล้วกับเยาวชนหลายสิบคน ใจแข็งสุดๆ ที่ยังมองตาข้าราชการและประชาชนอย่างไม่รู้สึกละอาย เกษียณมาไม่รู้กี่ปีแล้วยังอาศัยอยู่บ้านหลวง แม้กระทั่งค่าน้ำค่าไฟยังไม่คิดจะจ่ายเองเลย ใจแข็งขนาดนี้ประชาชน ต้องยกนิ้วให้แล้ว ส่วนจะเป็นนิ้วไหนรอดูแล้วกัน

“อานนท์” ลั่นสู้ยาว 3 ข้อเรียกร้อง

ที่ สน.บางโพ เวลา 10.00 น. นายอานนท์ นำภา ทนายความและแกนนำคณะราษฎร นายพงศ์สิทธิ์ นาเมืองรักษ์ ทีมงานทนายความศูนย์สิทธิเพื่อมนุษยชน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกตาม ป.อาญา มาตรา 112 กรณีชุมนุมที่บริเวณรัฐสภา แยกเกียกกาย 17 พ.ย. นายอานนท์กล่าวว่า ไม่มีความกังวลหรือหนักใจ ยินดีเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ขณะนี้โดนคดีมาตรา 112 รวมแล้ว 4 คดี โดยในปี 64 จะเป็นปีที่มีการชุมนุมเข้มข้นขึ้น ทั้งเนื้อหาสาระ ทั้งสภาพจิตใจคน เศรษฐกิจ และการเมือง จะมารวมกันในปีหน้าทั้งหมด ยืนยันข้อเรียกร้อง ยังคงเป็น 3 ข้อเช่นเดิม ปีนี้โหมโรงบ่มเพาะทางความคิด ของคน คนรุ่นใหม่ไม่ใช่คนที่จะไปหักด้ามพร้าด้วยเข่า เอาชนะในวันหรือสองวัน นี่คือการต่อสู้ระยะยาว เชื่อว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนทางสังคมได้

การ์ดราษฎรงงไม่เคยจับไมค์ยังโดน

วันเดียวกัน นายสมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดคนสำคัญของม็อบราษฎรโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมภาพหมายเรียกตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ข้อหาความผิดมาตรา 112 ที่มีนายศรายุทธ สังวาลย์ทอง เป็นโจทก์ นายสมบัติให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้ทราบข่าวมาว่าเป็นหนึ่งในรายชื่อผู้ที่จะถูกดำเนินคดีมาตรา 112 แต่ยังไม่เชื่อ กระทั่งตำรวจนำหมายเรียกมาส่งที่บ้าน งงว่าถูกแจ้งข้อหานี้ได้อย่างไร ที่ผ่านมาไปร่วมชุมนุมในฐานะการ์ดรักษาความปลอดภัยในม็อบอย่างเดียว ไม่เคยจับไมค์ขึ้นปราศรัย แม้แต่เปิดไมค์ยังทำไม่เป็น ไม่เคยใช้สื่อสังคมออนไลน์ไปในทางหมิ่นหรือจาบจ้วง ส่วนใหญ่แสดงความเห็นเฉพาะเรื่องการเมือง บุคคลที่มีชื่อเป็นโจทก์ดำเนินคดีตนเป็นคนเดียวกับที่แจ้งความมาตรา 110 ไว้กับผู้ชุมนุมม็อบราษฎร มั่นใจเหตุที่ถูกแจ้งจับผู้แจ้งน่าจะตั้งใจเล่นงานบุคคลที่เป็นที่รู้จัก แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีกลุ่มคนพยายามใช้กฎหมายนี้กลั่นแกล้งม็อบราษฎร ได้ประสานศูนย์ทนายความสิทธิเพื่อมนุษยชนให้ช่วยเหลือต่อสู้คดีแล้ว ยืนยันยังคงเข้าร่วมม็อบครั้งต่อไปในฐานะผู้ชุมนุม

ย้ำ ส.ส.ร.ต้องเลือกตั้ง 100%

นายนพ ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทยในฐานะรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลระบุ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดอาจมีจุดอ่อนไม่ครอบคลุมผู้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ควรดูถูกประชาชน การที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอยากให้ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เพื่อรักษาสิทธิ์ของประชาชน และเชื่อมั่นว่าการให้ประชาชนมีส่วนร่วม เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ จะเป็นรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายยอมรับ ที่สำคัญประชาชนในปัจจุบันสนใจความเป็นไปประเทศและการเมืองมากกว่าในอดีต ดังนั้น ขอให้เชื่อมั่นว่าประชาชนจะคัดสรรผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเขียนกฎหมายแทนเขาได้อย่างแน่นอน และในฐานะนักการเมืองเชื่อมั่นในการตัดสินใจของประชาชน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือความจริงใจของรัฐบาล ที่รัฐบาลบอกว่าอยากแก้รัฐธรรมนูญนั้นจริงใจหรือไม่ เพราะการแสดงออกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ไม่มีท่าทีที่จริงใจจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“บิ๊กป้อม” เบรกเมืองต้นแบบจะนะ

เมื่อเวลา 10.35 น.ที่สะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล นายประสาน หวังรัตนปราณี กรรมการ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เข้าเจรจากับกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ที่ชุมนุมพักค้างคืนติดแนวตู้คอนเทนเนอร์ บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อ.จะนะ ตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค.เป็นต้นมา โดยนายประสานชี้แจงว่า พล.อ.ประวิตร ให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาแก้ปัญหามี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯเป็นประธานและสั่งให้ชะลอโครงการไว้ก่อน ต่อมา ร.อ.ธรรมนัสได้ไปร่วมพูดคุย ยืนยัน พล.อ.ประวิตรสั่งชะลอโครงการแล้ว และจะลง พื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา วันที่ 16 ธ.ค. ก่อนพาแกนนำกลุ่มไปหารือถึงการตั้งคณะทำงาน ที่ตึกบัญชาการ 1 จากนั้นออกมาแจ้งผลการหารือที่มีบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ทำให้ผู้ชุมนุมพอใจย้ายไปชุมนุมที่ถนนพระราม 5 ข้าง ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนครเพื่อรอฟังผลการประชุม ครม.ก่อนที่เจ้าหน้าที่ได้นำรถเครนมายกตู้คอนเทนเนอร์ เปิดการจราจร

“ชวน” ปลุก จนท.รัฐสภาออกกำลังกาย

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม “สุขภาพดีตามวิถีของบุคลากรในวงงานรัฐสภา” ในโครงการพัฒนาองค์กรสุขภาวะต้นแบบ การสร้างเสริมสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตบุคลากรในวงงานรัฐสภา มีนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาฯ กล่าวรายงาน และนายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำความเป็นมาโครงการ มีคณะผู้บริหาร บุคลากรของสำนักงานเลขาธิการสภาฯเข้าร่วม

นายชวนกล่าวว่า การออกกำลังกายเราต้องทำด้วยตัวของเราเอง ไม่มีใครดูแลตัวเราได้ หากการก่อสร้างรัฐสภาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ภายในรัฐสภาจะมีออกซิเจนเพิ่มขึ้นจากต้นไม้ที่ปลูกไว้ รวมทั้งจะมีห้องออกกำลังกายด้วย จากนั้นได้เยี่ยมชมนิทรรศการด้านสุขภาพจัดโดย สสส. กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และสถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ โดยนายชวนได้ร่วมยืดเส้นยืดสายออกกำลังกายร่วมกับข้าราชการ