จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้า ปชป. รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ "คิกออฟ" จ่ายประกันรายได้ยาง เฟส 2 ทั่วไทย โว ชาวสวนยางได้ทั่วหน้า ทั้ง "บัตรเขียว-บัตรชมพู"
วันที่ 11 ธ.ค.63 ที่ จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานในการคิกออฟเปิดพิธีจ่ายโอนเงินส่วนต่างประกันรายได้ชาวสวนยางพาราปีที่ 2 ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบทำให้เกษตรกรได้รับเงินส่วนต่าง ทั้งชาวสวนยางที่ถือบัตรสีเขียว หรือผู้มีเอกสารสิทธิ และที่ถือบัตรสีชมพู หรือเกษตรกรกลุ่มด้อยโอกาสที่แจ้งปลูก โดยผู้ถือบัตรสีเขียวมีประมาณ 9.6 แสนราย ขณะที่ผู้ถือบัตรสีชมพูจะมีประมาณ 3.4 แสนราย รวมแล้วมีชาวสวนยางที่จะได้รับสิทธิ์เงินส่วนต่างประมาณ 1.3 ล้านรายทั่วประเทศ แต่ด้วยการประกาศราคาเกณฑ์กลางงวดนี้จะได้รับการชดเชย 2 ชนิด คือ ยางก้อนถ้วย และน้ำยางสดเท่านั้น เพราะน้ำยางดิบได้ประโยชน์จากราคายางที่สูงทะลุราคาประกันรายได้ไปแล้ว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ชาวสวนยางพาราจะได้รับส่วนต่างพร้อมกันทั่วประเทศ จากโครงการประกันรายได้ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่เข้าร่วมรัฐบาล และให้หลักประกันความมั่นคงทางอาชีพเกษตรกรและแถลงต่อรัฐสภามาแล้ว โดยได้ดำเนินการสำเร็จมาแล้ว 1 ปี และขณะนี้เดินหน้าปีที่ 2 โดยมีหลักการ คือ ถ้าราคายางตกต่ำ ชาวสวนยางจะได้ส่วนต่างมาชดเชย เกษตรกรจะได้เงิน 2 กระเป๋านั่นเอง และการจ่ายเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 หรือประกันรายได้ยางพาราปี 2 สำหรับโครงการดังกล่าวนี้ทั่วประเทศจะครอบคลุมเกษตรกรชาวสวนยางพื้นที่ปลูกยางพารากว่า 18 ล้านไร่ โดยยึดหลักเกณฑ์เดิมตามโครงการระยะที่ 1 ประกันรายได้ยาง 3 ชนิด คือ 1)ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคา 60 บาทต่อกิโลกรัม 2)น้ำยางสด (DRC 100%) ราคา 57 บาทต่อกิโลกรัม และ 3)ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคา 23 บาทต่อกิโลกรัม โดยกำหนดปริมาณผลผลิตยางที่จะประกันรายได้ คือ ผลผลิตยางแห้ง (DRC 100%) จำนวนไม่เกิน 20 กิโลกรัม/ไร่/เดือน และผลผลิตยางก้อนถ้วย (DRC 50%) จำนวนไม่เกิน 40 กิโลกรัม/ไร่/เดือน สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะต้องขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดยางไปแล้วรายละไม่เกิน 25 ไร่ มีสัดส่วนแบ่งรายได้ระหว่างเจ้าของ 60% และคนกรีดยาง 40% ส่วนระยะเวลาโครงการ เดือนกันยายน 2563-กันยายน 2564.
...