ยังไม่เปลี่ยน เลือกตั้งท้องถิ่น เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ต้องหยุดชะงักลง เพราะการเมืองระดับชาติอยู่ภายใต้การปกครองของ คสช.

จนกระทั่งมีรัฐธรรมนูญใหม่ได้รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งแต่ยังอยู่ภายใต้โครงสร้างอำนาจเก่า

แต่มิอาจปฏิเสธภาวะการเมืองในระบบได้

20 ธ.ค.63 จึงถูกกำหนดให้เป็นวันเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.ประเดิม ส่วนระดับอื่นๆต้องไล่เรียงกัน

ยิ่งสนามกรุงเทพฯถือว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองระดับชาติการกำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.จึงต้องมีเงื่อนไขพิเศษ
แตกต่างกันไป

เพราะสามารถใช้เป็นตัวชี้วัดความนิยมได้อย่างหนึ่ง สำหรับรัฐบาลที่บริหารประเทศในปัจจุบันเพื่อความได้เปรียบเสียเปรียบด้วย

รอยต่อทางการเมืองที่ยังไม่สามารถชี้ชัดว่าจะออกมาในรูปแบบไหน แต่การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเชื่อว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก

แม้บรรยากาศจะเปลี่ยนไปพอสมควร เพราะพรรคการเมืองระดับชาติให้ความสนใจและส่งผู้สมัคร ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคนั้นทั้งทางตรงและทางอ้อม

พรรคการเมืองที่ใช้กลุ่มการเมืองในแนวทางเดียวกันส่งผู้สมัครในสังกัดอย่างเป็นเรื่องเป็นราวด้วยแนวคิดใหม่และความเป็นคนรุ่นใหม่

ถือเป็น “จุดขาย” ทางการเมืองในรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

อยู่ที่ว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากน้อยแค่ไหนด้วยเชื่อว่าหากประสบผลสำเร็จสามารถนำไปต่อการเมืองระดับชาติได้

มีการพูดกันว่าการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นกับการเลือกตั้งระดับชาตินั้น แม้ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกจะครือๆคือไม่ต่างกันมากนัก

แต่ถ้าลงลึกลงไปมีความต่างกันอย่างชัดเจน

ที่ชัดที่สุดก็คือ ความผูกพันระหว่างผู้ใช้สิทธิกับผู้สมัครจะต่างกันชัดเจน เลือกตั้ง ส.ส.นั้นจะว่ากันเป็นครั้งคราวไปเลือกตั้งเสร็จก็จบ...ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างไป

...

ไม่ผูกพันกันแต่อย่างใด

ต่างกับการเลือกตั้งท้องถิ่นผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งก็มีความผูกพันไม่ต่างกับคนในครอบครัวเดียวกัน อย่างน้อย
ก็มีการดูแลเอาใจใส่เดือดเนื้อร้อนใจมีปัญหาก็ช่วยกันได้

นี่แหละที่สะท้อนภาพความเป็นจริงมิอาจปฏิเสธได้

จะเห็นได้ว่า ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นส่วนใหญ่จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนปฏิบัติหน้าที่มาอย่างยาวนาน จึงเป็นแบบรุ่นต่อรุ่นจากพ่อไปสู่ลูกหลาน

ผัว-เมีย ญาติพี่น้องเครือข่ายเป็นการเมืองครอบครัว...ทำนองนั้น

ปรากฏการณ์ที่เชียงใหม่กำลังพิสูจน์เรื่องนี้ เมื่อมีการต่อสู้กันระหว่างผู้สมัครหน้าเก่าที่มาจากการเมืองท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องทั้งตระกูล

คู่ต่อสู้เป็นผู้สมัครภายใต้ยี่ห้อ “เพื่อไทย” แม้เคยได้เป็น ส.ว. และมีชื่อเสียงโด่งดังแต่ไม่เคยต่อสู้ในสนามท้องถิ่น
มาก่อนถือเป็นตัวเต็งคนหนึ่ง

แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้งได้ แม้มีความพร้อมทุกอย่าง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ต้องลงทุนส่งจดหมายน้อยอ้อนคนเชียงใหม่ให้ช่วย

นั่นเพราะรู้ตัวแล้วว่า ตกที่นั่งเป็นรอง.

“สายล่อฟ้า”