“การ์ดอย่าตก” เดี๋ยวปีใหม่จะกร่อย “ม็อบ” น่าจะถึงเวลาพักชั่วคราว แต่ที่เพื่อไทยนั้นนํ้าแยกสายไผ่แยกกอกันชัดเจนแล้ว ว่ากันว่าเบื้องหลังนั้นซดกันเรื่อง “ธุรกิจ” การเมืองจนแตกหัก

ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้เล่นเอาเสียเส้นไปพอสมควรกับเรื่องโควิด-19 เพราะด้านหนึ่งข่าวดีจากวัคซีนที่อเมริกาและยุโรปจะเริ่มฉีดเข็มแรกปลายเดือนนี้

หากสำเร็จออกมาดีถือว่าเป็นโชคของคนทั้งโลก

แต่ของไทยนี่สิ...ป้องกันมาเป็นอย่างดีใกล้จะถึงฝั่งแล้ว

ทำท่าจะมีปัญหาขึ้นมา เพราะพบผู้ติดเชื้อหลายคนหลายจังหวัดผลตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นการ “นำเข้า” ไม่ใช่ระบาดในประเทศ

เนื่องจากมีคนไทยกลุ่มหนึ่งลักลอบไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านที่ติดเชื้อกันเป็นจำนวนมาก แล้วก็ลักลอบกลับเข้าไทยทางด้านชายแดน

ที่สำคัญก็คือ ไม่มีการป้องกัน ไม่สำนึกรับผิดชอบ

ฟูมฟายไปก็ไม่มีประโยชน์มีแต่จะต้องจัดการปัญหาให้อยู่ในวงแคบให้ได้ก็ต้อง “ลงแขก” ช่วยกันอีกครั้งหนึ่ง

เสียดายก็ตรงที่เหตุมาเกิดในช่วงไฮซีซัน ธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศกำลังบูมเมื่ออากาศกำลังจะหนาวเข้าเทศกาลปีใหม่

ยังไง “การ์ดอย่าตก” เอาไว้ก่อนดีที่สุด?

หลังจากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไปเนื่องจากคดี “พักบ้านหลวง” ไม่มีความผิด

ผลที่ตามมาทำให้กลุ่มผู้ชุมนุม (คณะราษฎร) น่าจะผ่อนเกมลง

โอกาสที่คนไทยจะได้ฉลองปีใหม่แบบชิลๆ มีความเป็นไปได้สูง เพราะยังไม่สามารถทำอะไรรัฐบาลได้

ดึงดันต่อไปก็เหนื่อยเปล่า เก็บแรงเอาไว้ก่อนดีกว่า

...

เนื่องจากเป็นเกมยาวที่จะต้องสู้กันอีกหลายยก ใช่ว่าจะจบกันได้ง่ายๆ ดันทุรังกันไปโดยที่ยังไม่มีไม้เด็ดที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากไปกว่านี้

นี่เป็นความจริงที่มิอาจปฏิเสธได้!

แต่การเมืองไทยนั้น มันมีหลายแง่หลายมุมที่ขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา พรรคการเมืองใหญ่คือ “เพื่อไทย” ที่หวังจะกลับมาทวงคืนอำนาจอีกครั้ง

ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน

เมื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โภคิน พลกุล วัฒนา เมืองสุข พงศกร อรรณนพพร ได้ยกทีมยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค

ถือเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่อยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว

ความจริงทางการเมืองนั้นพอจะอ่านกันออกแล้วว่า เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็จะเกิดอาการแบบนี้ เพียงแต่จะ “ช้า-เร็ว” เท่านั้น

หลังปรากฏการณ์ “กราบเดียว” จนมาถึงเกม “รุกฆาต” จนทำให้ “หญิงหน่อย” หมดอำนาจบารมีในพรรค

เพื่อเปิดทางให้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงภายในได้อย่างเป็นรูปธรรม

ล่าสุดได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ทีมที่ 1 มุ่งหวังไปที่คนรุ่นใหม่ 2 ทีมชุดใหญ่ เพื่อควบคุมการเมืองโดยตรง

ใครบอกว่า “คนต่างแดน” จะอ่อนล้าหรือหยุด...ไม่มีทางเป็นไปได้

ว่ากันว่าจุดแตกหักไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งภายในระหว่างก๊วน ก๊กต่างๆ แต่เป็นเพราะการเจรจาระหว่างแกนนำสำคัญต่อกันไม่ติด

ทวงบุญทวงคุณกันดุเดือดเลือดพล่าน

แน่ล่ะเจ้าของพรรคอย่างเจ้าบ้านจันทร์ส่องหล้า กับทีมคุณหญิงหน่อยที่มีนายโภคินร่วมวงอยู่ด้วยนั้น ใครได้ฟังได้รับรู้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

“ธุรกิจ” การเมืองนั้นลงทุนแล้วต้องได้กำไรลูกเดียว!!!

ลิขิต จงสกุล