บนเก้าอี้นายกฯ ที่ยังคาใจ มติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่พักอาศัยอยู่ “บ้านหลวง” ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
จึงเป็นเหตุว่าความเป็นรัฐมนตรีไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัว
นั้นทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงเป็นนายกฯและบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้ ผลพวงนี้ทำให้รัฐบาลยังคงดำรงอยู่ไม่ต้องไปหานายกฯคนใหม่และรัฐบาลใหม่
กลับกันหากผลวินิจฉัยออกมาตรงกันข้ามก็คงจะยุ่งเหยิงไม่ใช่น้อยกว่าจะหาตัวนายกฯและตั้งรัฐบาลใหม่ได้
ดีไม่ดีอาจบานปลายไปเป็นอย่างอื่นก็ได้
ว่าไปแล้วศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องรับหน้าเสื่อไปเต็มๆในเรื่องนี้ เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงไปซ้ายก็โดนไปขวาก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
ยิ่งผลที่ออกมาเป็นบวกกับรัฐบาลก็ไม่แคล้วที่ต้องโดนข้อครหาสองมาตรฐานอย่างที่เคยโดนมาตลอด
กลุ่มผู้ชุมนุมเลยได้โอกาสโจมตีอย่างเต็มคำไม่ว่ารัฐบาลหรือศาลรัฐธรรมนูญ เพราะสถานการณ์มันไปอย่างนั้น
จึงมีข้อเรียกร้องใหม่ คือ ต้องปฏิรูปองค์กรอิสระทั้งหมดและกองทัพ
ข้อวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมานั้นก็ไล่เรียงมาจากระเบียบปฏิบัติของกองทัพบกที่ระบุเอาไว้ชัดเจนอยู่แล้วทุกมุมมอง
เมื่อไม่ผิดจะไปบอกว่าผิดมันก็กระไรอยู่
หรือหากจะไปยกเอากรณีของอดีตนายกฯ สมัคร สุนทรเวช กรณี “ชิมไปบ่นไป” นั้นมันต่างกันอย่างชัดเจน เพราะนายกฯ ไปรับจ้างได้ค่าจ้างตอบแทนมันผิดอยู่แล้ว
จริงๆแล้วปมเงื่อนมันไม่ควรจะเกิดขึ้นมาหากวางกฎกติกาให้มันชัดเจนแล้วปฏิบัติไปตามนั้นอย่างหลายประเทศไม่ว่าสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ซึ่งมีบ้านพักรับรองผู้นำประเทศทั้งบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิ่งหรือทำเนียบขาว
...
ทั้งสมเกียรติและสง่างามเหมาะสมกับตำแหน่งแห่งหน
ที่สำคัญไม่ต้องเป็นขี้ปากทางสังคม
อีกทั้งการวางระเบียบในเรื่องนี้หากกองทัพดำเนินการไปตามนั้นไม่ใช่มีลักษณะลักลั่นทำให้เกิดความไม่ถูกต้องชอบธรรมผลมันจึงเป็นอย่างนี้
ที่เรียกร้องให้ปฏิรูปกองทัพจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องและควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
เพราะกองทัพก็เป็นเพียงหน่วยงานหนึ่งของรัฐบาลไม่ต่างไปจากหน่วยงานอื่นๆ ระเบียบปฏิบัติต่างๆจึงควรเป็นมาตรฐานเดียวกัน
แต่เมื่อไปวางฐานะของกองทัพเอาไว้เหนือกว่าจึงเกิดความแตกต่าง ซึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นความเป็นไปของประเทศนี้ได้เป็นอย่างดี
เปรียบไปเมื่อ คสช.เข้ามายึดอำนาจปกครองประเทศโดย พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช.แล้วพลิกผันขึ้นมาเป็นนายกฯแต่ก็ยังคงพักอาศัยในบ้านหลวงที่เคยอยู่มาตั้งแต่ยังไม่เกษียณ
คิดง่ายๆในมุมของ คสช.และรัฐบาลใหม่ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลก
แต่เมื่อมาเป็นรัฐบาลในรูปแบบประชาธิปไตยมันจึงเป็นเรื่องแปลกและไม่เหมาะไม่ควรอย่างยิ่งและยังหมายถึงความคิด “ทหารเป็นใหญ่” อะไรก็ได้
“ศาลรัฐธรรมนูญ” เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่งเลยพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย.
“สายล่อฟ้า”