ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เป็นกล่องดวงใจประชาธิปไตยเป็นกุญแจดอกสุดท้ายที่จะทำให้ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ลอดช่องแคบมาละกาออกมาประกาศใช้แทนรัฐธรรมนูญฉบับใบสั่งเผด็จการ

ล่าสุด ร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติฉบับใหม่ (ของรัฐบาล) ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาวาระแรกอย่างสะดวกโยธิน

“แม่ลูกจันทร์” สรุปย่อๆว่าร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติที่ผ่านไฟเขียวจากที่ประชุมร่วม ส.ส.-ส.ว. กำหนดเงื่อนไขการทำประชามติไว้ 2 ประตู 

ประตูที่ 1, เพื่อลงประชามติเห็น ชอบหรือไม่เห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ประตูที่ 2, ให้อำนาจรัฐบาล (โดยมติ ครม.) จัดให้ประชาชนลงประชามติในปัญหาสำคัญๆตามที่รัฐบาลเห็นสมควร

ข้อสำคัญ การออกเสียงประชามติจะมีผลโดยสมบูรณ์ต้องมีประชาชนใช้สิทธิลงประชามติเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ 51 ล้านคน

พูดง่ายๆต้องมีประชาชนลงประชามติเกิน 26 ล้านคน

กำหนดให้การออกเสียงประชามติเป็นหน้าที่ของ กกต.

การจัดออกเสียงประชามติต้องไม่เร็วกว่า 90 วัน และไม่ช้ากว่า 120 วัน

ให้ กกต.รับผิดชอบประชาสัมพันธ์เผยแพร่ประเด็นการลงประชามติให้ประชาชนรับทราบโดยไม่ชี้นำ

แต่ไม่อนุญาตให้พรรคการเมืองหรือเครือข่ายภาคประชาชน หรือองค์กรเอกชนเคลื่อนไหวรณรงค์ประชามติได้อย่างเสรี

อนึ่ง ผู้ใดก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงประชามติไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

มีโทษจำคุก 10 ปี

“แม่ลูกจันทร์” มองเห็น “ความไม่เข้าท่า” ของร่าง พ.ร.บ.ประชามติฉบับรัฐบาลชงเอง 2 ประเด็น

ประเด็นแรก...โดยหลักปกติ กำหนดการออกเสียงประชามติ ไม่ควรเร็วกว่า 45 วัน และไม่ควรช้าเกิน 60 วัน

...

แต่ร่าง พ.ร.บ. ประชามติฉบับใหม่ ถ่างออกไปให้จัดลงประชามติไม่เร็วกว่า 90 วัน และไม่ช้าเกินกว่า 120 วัน

จะดึงช้าไปถึงไหน พ่อมหาจำเริญ??

ประเด็นที่สอง การปิดกั้นภาคประชาชนไม่ให้รณรงค์ประชามติอย่างเสรี ผิดหลักประชาธิปไตย

เพราะการลงประชามติตามระบอบประชาธิปไตย ต้องเปิดกว้างให้ประชาชนทุกฝ่ายแสดงความเห็นได้อย่างเสรี

“แม่ลูกจันทร์” ไม่อยากให้การลงประชามติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เลวร้ายซ้ำรอยการลงประชามติรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ คสช. เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา

ครั้งนั้น นักการเมือง นักวิชาการ นักศึกษา ประชาชน ที่ออกมาเคลื่อนไหว คัดค้านรัฐธรรมนูญ หรือ ออกมารณรงค์ “โหวตโน”

โดนจับกุมข้อหายุยงปลุกปั่นและข้อหาสมคบกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจรถึง 64 คน

นอกจากนี้ยังมีผู้ถูกดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. อีก 131 คน

เป็นการลงประชามติแบบ “มัด มือชก” “ห้ามโหวตโน” ต้อง “โหวตเยส” ลูกเดียว!!

ปรากฏว่ามีประชาชนโหวต “เห็นชอบ” 15 ล้านคน

มีประชาชนดื้อแพ่งโหวต “ไม่เห็นชอบ” ถึง 10 ล้านคน

แสบไส้ติ่งจริงๆ ประชามติยุค คสช. ครองเมือง.

"แม่ลูกจันทร์"