ฉากถ่ายหนัง “ซอมบี้บุกเมือง” ฟาวล์ 2 รอบติดๆกัน เด็กแสบหลอกให้ “เหนื่อยฟรี” ล่าสุดปฏิบัติการสกัดกั้นม็อบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยความมั่นคง ระดมขนตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือคลองเตย พร้อมขึงรั้วลวดหนามเต็มอัตราศึก

จัดแนวรบ “ด่านสกัด” บนถนนวิภาวดีฯ หน้ากรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์

“ยุทธการป้องไข่ในหิน” เต็มอัตราศึก แต่ต้องเก้อ เพราะม็อบราษฎรเปลี่ยนธงจากที่ ประกาศชุมนุมหน้าค่าย ร.1 พัน. 1 รอ. จ่อบุกถึง “บ้านหลวง” ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม สับขาหลอกย้ายไปปักหมุดหน้าค่าย ร.11 รอ.บางเขน

ฝ่ายความมั่นคงทีมทหารเฒ่า 3 ป.โดนเด็กแกงซ้ำ

จากคิวก่อนหน้าที่ตำรวจระดมขนตู้คอนเทนเนอร์หลายคัน รถพ่วง 18 ล้อปิดถนน ล้อมรั้วลวดหนามหีบเพลง กำลังพลหลายสิบกองร้อย สกัดม็อบราษฎรไม่ให้บุกถึงหน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ แต่มวลชนรุ่นใหม่ย้ายไปปักหมุดหน้าธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดา

ปรากฏการณ์เด็กชวนคนแก่เล่นซ่อนหา ทหารเฒ่าผวาขนตู้คอนเทนเนอร์ปิดถนน

ผลก็คือ รถติดเมืองกรุงวินาศสันตะโร

...

และตามรูปการณ์ส่อเค้าจะเป็นไปแบบนี้ไปเรื่อยๆเพราะเด็กเล่นแบบไม่เหนื่อย ไม่ถอย พร้อมวัดระยะกับทีมทหารเฒ่า 3 ป.ใครจะอึดกว่ากัน

โดยเฉพาะเกมเร้าช็อตเดิมพัน โยงหวยออกวันที่ 2 ธันวาคม

เงื่อนไขสถานการณ์ “พลิกเกม” เร้าม็อบเบิ้มๆ ปักหมุด ณ ศาลรัฐธรรมนูญ ตามฤกษ์ นัดฟันธงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ยังพักอาศัยอยู่ในบ้านพักทหารหลังเกษียณอายุราชการแล้ว ถือเป็นการจงใจไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 (3) ส่อขัดกันของผลประโยชน์ ถือเป็น การรับประโยชน์จากหน่วยงานของรัฐ หรือไม่

บันไดไต่ลง หรือพาดปีนตะเกียกตะกายไปต่อ

ที่แน่ๆในอารมณ์ของฝ่ายต้านขุมอำนาจ 3 ป. ชิงรับรวบรัดมัดคอให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดประตูหนีไฟ ลุ้นให้หวยออกมาในมุมผิด “บิ๊กตู่” ต้องหลุดเก้าอี้โดยอัตโนมัติ เทียบเงื่อนไขสถานการณ์ล้อกับอดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช ที่ตกเก้าอี้เพราะรับจ้างทำกับข้าวโชว์ออกทีวี

ตีปี๊บขู่ดักหน้า ดักทางรอโห่ “2 มาตรฐาน”

แต่จับทางฝั่งทหารเฒ่า 3 ป. ประเมินอาการของผู้นำที่ยังพยายามโชว์บทชิวๆ พูดทีเล่นทีจริงกับนักข่าวสะท้อนอารมณ์ไม่ซีเรียส แท็กทีม “พี่ใหญ่–พี่รอง” ปิดห้องคุยลับกัน 3 คน

ล้อกับข่าววงในสายเซียนที่เชื่ออิทธิฤทธิ์ “พระรอด–หลวงปู่แคล้ว–หลวงพ่อรอด” ที่ห้อยอยู่เต็มคอ

“บิ๊กตู่” โคตรเหนียว ยากจะโดนฟัน

เว้นแต่จะมีลูกติดพัน ในมุมกฎหมายไม่ผิด มันอาจจะมีจุดติดติ่ง ห้อยท้ายคำพิพากษา เลกเชอร์เรื่องของความเหมาะสมที่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล โดยเฉพาะว่ากันตามกติกาที่ใช้กับทหารชั้นผู้น้อยที่เกษียณอายุราชการต้องขนของย้ายออกจากบ้านหลวงทันที

ไม่มีโอกาสย้ายก้นมานั่งฝ่ายบริหาร เป็นนายกฯ เป็นรัฐมนตรี

ยิ่งในโหมดที่รัฐธรรมนูญบังคับไว้ เทียบกับธรรมเนียมเก่าๆ

ในค่ายทหาร อันไหน “เข้มขลัง” กว่ากัน

ที่แน่ๆศาลรัฐธรรมนูญฟันธงไม่ผิด แต่ไม่ได้ห้ามผู้นำแสดง “สปิริต”

ทางลงเท่ๆ เบิ้ลย้อนศรเสียงโห่ของม็อบราษฎร

ในอารมณ์เบื้องลึกของผู้นำสะท้อนออกสีหน้าแววตา ท้อโดนเด็กด่า ท้าเล่นเกมเสี่ยงแลกเลือด

ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ที่มองไปมีแต่ความมืด ไร้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ไม่ต้องหวังการปรองดองที่เดินหน้าแบบขอให้จบตามโปรแกรมเท่านั้น เพราะเข้าร่วมไม่ครบทุกฝ่าย ฟาวล์ตั้งแต่ต้น

และยิ่งไม่ต้องลุ้นเหลี่ยมลากเกมแก้รัฐธรรมนูญ ยังไม่ทันเริ่ม หัวขบวนก็สะดุดหัวคะมำ

เมื่อ “เสี่ยปาน” นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ตัวทำเกม โดนอัยการสูงสุดสั่งฟ้องกรณีทุจริตก่อสร้าง

สนามฟุตซอลโรงเรียนใน จ.นครราชสีมา ยื่นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง ส่อต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.รอลุ้นศาลตัดสินถูก-ผิด

แต่นั่นไม่เท่ากับสัญญาณร้ายกระแทกเศรษฐกิจที่ทีมงาน “บิ๊กตู่” ลากไม่ขยับเขยื้อน ล่าสุดยังซ้ำด้วยสถานการณ์ติดเชื้อไวรัสมรณะภายในประเทศ หลุดเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย

ทำลายผลงานคุมโควิดที่ทีม “บิ๊กตู่” เคลมเป็นปราการด่านสุดท้าย

สัญญาณร้าย ขืนลากถูลู่ถูกังไป ไม่มีบันไดลงแล้ว.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน