
นายกฯ รณรงค์วันเอดส์โลกประจำปี 63 ย้ำ รัฐบาลพร้อมดูแลคนทุกกลุ่ม
นายกรัฐมนตรี ร่วมรณรงค์วันเอดส์โลกประจำปี 2563 ย้ำ รัฐบาลพร้อมดูแลคนทุกกลุ่ม มอบหมาย ก.แรงงาน ส่งเสริมการจ้างงาน พร้อมประชาสัมพันธ์งานมหกรรมไหมไทยสู่เส้นทางโลก
วันที่ 23 พ.ย. 2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เยี่ยมชมนิทรรศการก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยร่วมรับมอบโบแดงสัญลักษณ์วันเอดส์โลก เพื่อร่วมรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลกประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด “Walk Together : เอดส์อยู่ร่วมกันได้ ไม่ตีตรา” พร้อมย้ำว่า รัฐบาลพร้อมดูแลทุกกลุ่ม ทุกคน โดยจะมอบหมายให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางส่งเสริมการจ้างงาน การประกอบอาชีพของผู้มีเชื้อเอชไอวี สังคมต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องในการอยู่ร่วมกันกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี ลดการเลือกปฏิบัติหรือตีตราผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบความสำเร็จในการรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ทำให้ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโรคเอดส์ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องด้วย ขณะที่กรมควบคุมโรคร่วมด้วยภาคีเครือข่ายจากภาครัฐและภาคเอกชนจะจัดกิจกรรมรณรงค์วันเอดส์โลกพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 ธ.ค. 2563
ข่าวแนะนำ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมชุดผ้าไหมไทยเพื่อร่วมประชาสัมพันธ์โครงการมหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ปีที่ 10 โดยมูลนิธิช่วยเหลือนักท่องเที่ยวร่วมกับคณะเอกอัครราชทูตและภรรยาทูตประจำประเทศไทย พร้อมสนใจสอบถามนักศึกษาถึงวิธีการคัดเลือกผ้าไหม การทำงานคณะเอกอัครราชทูตจากต่างประเทศ ในการออกแบบเสื้อผ้าชุดต่างๆ ที่สามารถคงความโดดเด่นของผ้าไหมไทยในรูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัย
ทั้งนี้ มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 10 เป็นการจัดงานแฟชั่นโชว์ระดับโลก เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ในปีนี้มีการปรับเปลี่ยนวิกฤติจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เป็นโอกาสของนักศึกษาด้านการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอทั่วประเทศ เปิดโอกาสให้สถาบันอาชีวศึกษาและคณะออกแบบและสิ่งทอจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ 70 แห่ง ร่วมออกแบบและตัดเย็บชุดผ้าไหมแก่คณะเอกอัครราชทูตต่างประเทศ เพิ่มมูลค่าผ้าไหมไทยและส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตของประเทศต่างๆ ด้วย โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 6 ธ.ค. 2563 ณ หอประชุมกองทัพเรือจึงปรับเปลี่ยนจากดีไซเนอร์ต่างประเทศเป็นผลงานจากนิสิตนักศึกษา.
