เสริมกำลังตำรวจประมาณ 1-2 กองร้อย บริเวณแยกเกียกกาย จุดที่มีการปะทะของคณะราษฎร และคนเสื้อเหลือง ขณะที่กลิ่นแก๊สน้ำตาคลุ้ง ทำให้หลายคนแสบตา 

เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 17 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 1-2 กองร้อย ได้มุ่งหน้าไปยังสี่แยกเกียกกาย ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายทำการปะทะกัน

ทั้งนี้ จากการสอบถาม ผู้ชุมนุมราษฎร ได้ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมหลังจากที่เจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากบริเวณนี้แล้ว กลุ่มคนเสื้อเหลืองได้เข้ามาในพื้นที่ทันที พร้อมกับขว้างปาสิ่งของจนเกิดการปะทะกัน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ ผบช.น.ชี้แจงว่า เป็นการเปิดทางให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองเข้ามาใช้กำลังต่อมวลชนราษฎรหรือไม่

นอกจากนี้ ผู้ชุมนุมคณะราษฎร ยังยืนยันด้วยว่า การชุมนุมของคณะราษฎร เดินทางมาเพื่อสนับสนุนให้สภารับร่างรัฐธรรมนูญของไอลอว์ ซึ่งก็เดินทางมาโดยไม่มีอาวุธเหมือนกับกลุ่มคนเสื้อเหลือง ทำไมคนเสื้อเหลืองเข้ามาในพื้นที่ได้ แต่เมื่อคณะราษฎรเข้ามา กลับโดนแก๊สน้ำตา

...

จากนั้นเวลา 17.46 น. บริเวณหน้าวัดแก้วฟ้าฯ แยกเกียกกาย ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมวิ่งย้อนกลับมาที่จุดนี้ โดยมีมวลชนคอยตะโกนว่า ใครแสบตา อย่าขยี้ตา และให้วิ่งมาตรงนี้ ซึ่งจะมีมวลชนคอยนำน้ำเกลือมาล้างหน้า ล้างตาให้ ซึ่งตรงจุดนี้ก็มีรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ 

อย่างไรก็ตาม บริเวณแยกเกียกกาย ที่มุ่งหน้าไปทางสามเสน ผู้ชุมนุมได้พยายามดึงเอารถเมล์ที่ถูกนำมาเป็นแนวกั้นออก แต่ก็ถูกฉีดน้ำผสมสารเคมีใส่เป็นระยะ เพื่อสกัดไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายรถเมล์ ขณะที่ยังมีการประกาศจากแกนนำราษฎรว่า หากใครโดนน้ำที่ผสมสารเคมี ให้ถอยมาด้านหลัง และถ้าเจอกระป๋องแก๊สน้ำตา อย่าจับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของการ์ดแทน

ขณะที่มวลชนราษฎร ประกาศว่า เมื่อเวลา 18.00 น. จุดพยาบาลได้ขยับเข้ามาที่ใหม่ บริเวณแยกเกียกกาย