“พล.อ.ประยุทธ์” ลงพื้นที่เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี บอก ไม่สบายใจเศรษฐกิจเงียบเหงา เร่งฟื้นท่องเที่ยว ชี้ ทุจริตวัดกันด้วยการดำเนินคดี ยืนยัน ไม่ได้ทำอะไรผิด
วันที่ 2 พ.ย. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในช่วงหนึ่งขณะพบปะชาวสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่า นายกรัฐมนตรีไปที่ไหนก็นึกถึงแต่ประชาชน เพราะคือคนไทยด้วยกัน และรู้สึกไม่สบายใจเพราะครั้งก่อนที่มากับวันนี้เปลี่ยนไปมาก ความเงียบเหงาเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจร้านค้าต่างๆ เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีก็เจ็บปวดหัวใจ จึงมีการพิจารณาร่วมกันเพื่อทำให้การท่องเที่ยวภาคใต้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งรัฐบาลมีการเตรียมพร้อมมาตรการต่างๆ ไว้รองรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแล้ว พร้อมขอความร่วมมือคนในพื้นที่ยังคงต้องดูแลตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย ทำตามมาตรการต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกด้วยว่า ทุกปัญหาแก้ได้ถ้าไม่ใจร้อนเกินไป ขอให้อดทน พร้อมกล่าวขอโทษในนามนายกรัฐมนตรี กับอะไรที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อลูกหลาน วันนี้โลกเจริญเติบโตด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ตนไม่ได้ห้ามอ่านห้ามฟัง แต่จะเชื่อทุกอย่างหรือไม่ เพราะบางครั้งก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งการชี้แจงข้อเท็จจริงยาวๆ มักไม่ค่อยมีคนอ่าน แต่นั่นคือสาระว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย บางทีก็รู้สึกน้อยใจที่โพสต์ออกไปมีคนอ่านน้อย แต่เราไปห้ามไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของสังคมยุคใหม่
...
“หลายคนบอกนายกรัฐมนตรีมีปัญหานั่นนี่ ร่ำรวย ทุจริต เขาวัดกันด้วยการดำเนินคดี การตัดสินของศาล และผมยังไม่เห็นผมทำอะไรผิดสักอย่าง หลายคนบอกผมผิดที่อยู่นานเกินไป เบื่อขี้หน้า ผมก็ไม่รู้นี่อยู่ในกติกาข้อไหนของการเมืองไทย ก็แล้วแต่เขาจะว่า ผมจะฟังเฉพาะศาลเท่านั้น”

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า เราต้องสอนให้คนมีหลักคิด คำว่าหลักมาจากกฎหมาย รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แต่มีกฎหมายลูกที่พ่วงต่อมาอีก สิทธิหน้าที่ สิทธิเสรีภาพ หรือการชุมนุม จะมีการเขียนในกฎหมายว่าอย่างไรจึงจะถูกหรือผิดกฎหมาย หากใครไม่ได้ทำอะไรก็ไม่เดือดร้อน พร้อมย้ำถึงกรณีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า ไม่ได้ต้องการให้คนมารักตนเพราะบัตรนี้ แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องดูแลคนรายได้น้อยให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้.