การชุมนุมประท้วง ขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของ คณะราษฎร จะจบแบบไหน ไม่มีใครเดาได้ แต่ด้วยวิธีการ ของผู้ชุมนุม องค์ประกอบต่างๆในการชุมนุม หรือแม้แต่เป้าหมายของเงื่อนไขการเรียกร้องต่อการชุมนุมครั้งนี้ ก็ไม่ใช่แค่การลาออกของ พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น

การลาออกของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเพียงการเริ่มต้น

เพียงแต่ว่าการเริ่มต้น ก็ต้องมีตอนจบเสมอ การยกเอาฮ่องกงโมเดล มาเป็นแบบของ คณะราษฎร มีการเคลื่อนไหวด้วยวิธีสันติ อหิงสา หลีกเลี่ยงการปะทะ แต่ไปหนักที่เงื่อนไขการเรียกร้อง ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ละเอียดอ่อน และนำไปสู่ความแตกแยกของคนไทยครั้งสำคัญ

เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของ ระบอบประชาธิปไตย ที่จะก้าวข้าม กับดัก ทั้งปวง หรือจะหวนกลับไปสู่ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่คนไทยคุ้นเคย ยึดมั่นถือมั่นในจารีตประเพณีดั้งเดิม

การชุมนุมประท้วงของ คนรุ่นใหม่ในฮ่องกง เริ่มจากกฎหมายที่จำกัดสิทธิและเสรีภาพคนฮ่องกง ใช้เวลาในการประท้วงอยู่นาน ทั้งบริเวณแหล่งธุรกิจการค้าที่สำคัญและสถานที่ราชการ รัฐสภา แรกๆก็ออกมาชุมนุมกันด้วยความสงบ เป้าหมายจริงๆไม่ได้อยู่ที่ ผู้บริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง แต่อยู่ที่ จีนแผ่นดินใหญ่ ที่คอยควบคุมสั่งการผู้บริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกงอีกที

ต่อมาม็อบมีการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ มีคนที่เห็นต่างจากผู้ประท้วงออกมาชวนม็อบทะเลาะ ซึ่งข่าวยังระบุด้วยว่า เป็นกองกำลัง ของจีนแผ่นดินใหญ่ปะปนเข้ามาเป็นมือที่สามจนเกิดความวุ่นวาย

ฝ่ายหนึ่งก็บอกว่า จีนแผ่นดินใหญ่ เข้าแทรกแซง อีกฝ่ายก็อ้างว่า สหรัฐฯ หนุนหลังผู้ชุมนุม ผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเตรียมจะถอดใจลาออกตามข้อเรียกร้องของม็อบอยู่แล้ว เพราะดูจากสถานการณ์ เสี่ยง ที่จะทำให้ ฮ่องกง เสียหายและมีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตขึ้น

...

แต่ จีนแผ่นดินใหญ่ ยืนยันหนุนหลัง ผู้บริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง เต็มที่ ส่งกำลังทหารเข้ามาช่วยรักษาความสงบ กวาดล้างผู้ชุมนุมอย่างจริงจัง จับกุมแกนนำดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด แม้จะถูกองค์กรสากลทั่วโลก รวมทั้ง ยูเอ็น บอยคอตอย่างไร ก็ไม่สนใจ

การปราบปรามผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา มีทั้งใช้กระบอง กระสุนยาง รถฉีดน้ำ ควบคู่ไปกับกระบวนการในสภา ซึ่งฝ่ายค้านก็มีกำลังพอๆกับบ้านเรา ฝ่ายรัฐบาลฮ่องกงมีเสียงสนับสนุนมากกว่า เสียเปรียบวันยังค่ำ นานเข้าชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมก็เริ่มเดือดร้อน เสียแนวร่วม

ส่วนผู้ชุมนุมเริ่มจะอ่อนกำลังลง เพราะใช้เวลาการชุมนุมกันยาวนานหลายเดือน เกือบจะปีด้วยซ้ำ ค่อยๆลดจำนวนลงเรื่อยๆ แกนนำก็ต้องใช้เวลาในการสู้คดี ยุทธวิธี ปิดประตูตีแมว รอให้ฝ่ายตรงกันข้ามอ่อนแรงเพราะขาดเสบียง ขาดน้ำ ขาดอาหาร ได้ผล ใช้เวลาเอาชนะศัตรู โดยที่ไม่ต้องออกแรงปะทะ ไม่ใช้กำลังเข้ารบ

สงบสยบความเคลื่อนไหว.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th