เสวนา “การแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือทางออกประเทศไทย” “โภคิน” ย้ำ ให้มี ส.ส.ร.ไม่ใช่การตีเช็คเปล่า ด้าน “นิกร” ยัน ชาติไทยพัฒนา เอาด้วยแน่ แก้รธน.ม.256 ยัน ส่วนตัวไม่เห็นด้วย รธน.60 เขียนให้เป็นค่ายกล 7 ดาว แก้ไม่ได้ 

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ร่วมกับ สถาบันสร้างไทย จัดสัมมนา เรื่อง “การแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือทางออกประเทศไทย” มีผู้ร่วมเสวนาจำนวนมาก อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการ ไอลอว์ นายโคทม อารียา ประธานภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

โดยนายโภคิน กล่าวตอนหนึ่งว่า เขาร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ขึ้นมา เพื่อไม่ให้ฝ่ายประชาธิปไตยถึงแม้จะชนะก็บริหารไม่ได้ เราเห็นการสืบทอดอำนาจของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ได้ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทางเดียว คือ ต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องไม่เป็นเครื่องมือของใคร ทุกอย่างต้องจบที่ประชาชน โดยการผลักดันให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อีกครั้ง แต่พอบอกว่า จะมีส.ส.ร.บางคนบอกเป็นการตีเช็คเปล่า ขอถามว่า อำนาจเป็นของเขาจะตีเช็คเปล่าแล้วจะเป็นอะไร และการให้ประชาชนมาเขียน ประชาชนจะตีเช็คเปล่าได้อย่างไร เขาก็ต้องเขียนให้เป็นประชาธิปไตย ขอให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันผลักดัน มาร่วมเดินในทิศทางเดียวกัน เพื่อเดินหน้าอย่างสันติ และคิดว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการตั้ง ส.ส.ร.ก็ยากที่จะมีใครมากดดันในการเขียนเรื่องสืบทอดอำนาจ

...

ด้านนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ ทางออกของประเทศ ขณะนี้เด็กกับผู้ใหญ่คุยกันไม่รู้เรื่อง ตอนที่อภิปรายเรื่องรัฐธรรมนูญ เหมือนเราอยู่ตรงกลางแล้วมีกระสุนมาจากทั้งสองข้าง ทั้งนี้ เรื่องรัฐธรรมนูญจะเป็นประตู่สู่วิกฤติครั้งใหญ่มากกว่า ปี 35 แต่ก็เป็นประตูเดียวที่จะออกจากวิกฤติเช่นเดียวกัน ดังนั้นก็เลือกเอาแล้วว่า จะเปิดเข้าหรือเปิดออก อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญปี 2560 เพราะเขียนเอาไว้เป็นค่ายกลเจ็ดดาว ซึ่งแก้ไขไม่ได้ เมื่อมีการทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงจี้ไปที่มาตรา 256 เป็นประตูเปิดสิ่งเหล่านี้ยืนยันว่า ในการรับหลักการวาระแรก พรรคชาติไทยพัฒนาจะรับอย่างแน่นอน