หวยล็อก ทางออกแก้รัฐธรรมนูญ ก็อย่างที่พูดกันนั่นแหละ...การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยนั้นมีความเกี่ยวพันกับการเมืองไทยทั้งระบบ

ที่เห็นอย่างชัดก็คือการเปลี่ยนแปลงภายในเพื่อไทยเองด้วยการเปลี่ยนกรรมการบริหารแบบยกชุด

ตั้งทีมบริหารหรือที่เรียกกันว่า “โปลิตบูโร” จำนวนหนึ่งเพื่อคุมนโยบายและทิศทางพรรคเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่เกิดความเป็นเอกภาพ

ขืนดันทุรังอยู่ต่อไปอย่างนี้ถือว่า “ลงทุน” ที่ไม่คุ้มค่า

อย่างน้อยการหลีกทางห่างจากกลุ่มของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ น่าจะเป็นผลดีมากกว่าทั้งในแง่กฎหมายที่อาจจะถูกยุบพรรคเมื่อใดก็ได้

ยังพ้นจากข้อครหา “ล้มเจ้า” อย่างที่เคลือบแคลงสงสัยกันอยู่

นั่นแหละเป็นเหตุผลที่เป็นคำตอบต่อการตัดสินใจในครั้งนี้

อย่างที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เคลื่อนไหวและดำเนินการอย่างเป็นจริงเป็นจังที่ปรากฏนั้นคือภาพที่ชัดเจน

แม้ด้านหนึ่งได้สร้างความไม่พอใจระดับหนึ่งกับกลุ่มผู้ต้องการจะให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศ

แต่ความจริงที่ยากปฏิเสธก็คือหากขาดการหนุน เนื่องจากเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงที่ว่ามาแรงก็จะเบาบางลงไป

อีกทั้งในความรู้สึกของสังคมโดยรวมแล้วกอร์ปกับพฤติกรรมของบรรดาแกนนำผู้ชุมนุมที่ออกมาเคลื่อนไหวด้วยท่าทีที่ก้าวร้าว คำพูดคำจาที่หยาบคาย

เหมือนประเทศนี้เป็นของพวกเขาจะทำอะไรได้

หากประเมินกันแล้วไม่น่าจะไปได้ไกลนัก เพราะทำตัวเองจนเสื่อมไปตามสภาพให้น้ำหนักการเคลื่อนไหวดาวน์ลงไปเรื่อยๆ

แม้ข้อเรียกร้องหลายอย่างตรงใจและต้องการให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงก็ตามรวมถึงความไม่ไว้วางใจว่าจะนำพาประเทศไปได้

...

การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเพียงแต่ว่าผลจะเป็นอย่างไรเท่านั้น

เอาง่ายๆ ทั้งเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลที่เสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญดูจะไม่ต่างกันมากนัก คือแก้ไข ม.256 และ ตั้ง ส.ส.ร.

ชัดเจนที่สุดก็คือไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2

อ่านกันแค่นี้ก็พอจะรู้ว่าหลักการตรงกันแต่รายละเอียดจะต่างกันบ้าง

ต่างกับพรรคก้าวไกล กลุ่มผู้สนับสนุนที่เสนอแนวคิดอย่างสุดโต่งต้องการแตะต้องสถาบันอย่างตรงไปตรงมา

การที่เพื่อไทย พลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนสามารถที่จะแตะมือกันเพื่อผลักดันให้รัฐสภาลงมติญัตติ 2 ฉบับ ของรัฐบาลและเพื่อไทยอีก 2 ญัตติให้ตกไป

คือการตัดอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ที่เห็นชัดเจนเมื่อคุณหญิงพจมานเคลื่อนไหวฝ่ายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จึงส่งสัญญาณตรงไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลว่าพร้อมแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไข ม.256 ตั้ง ส.ส.ร.

ปิดทางที่จะไม่ให้ไกลไปถึงสถาบันหากคำนวณระยะเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญกว่าจะเสร็จก็ต้องใช้เวลา 18-24 เดือน

มีเวลาที่จะเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้งใหม่.

“สายล่อฟ้า”