“iLaw” พร้อมแกนนำประชาชนปลดแอก นำทีมเดินเท้าไปรัฐสภาสภา ยื่นกว่า 1 แสนรายชื่อ แก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พร้อมติดตามต่อเนื่อง ด้านตัวแทนฝ่ายค้านเล็งชวนตัวแทนภาคประชาชนนั่งในกรรมาธิการ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 ก.ย. 2563 ภาคประชาชนนำโดยโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw (ไอลอว์) และเครือข่าย เช่น คณะประชาชนปลดแอก และกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า นัดเดินขบวนนำ 100,732 รายชื่อ จาก MRT สถานีเตาปูน ไปยื่นที่รัฐสภา โดยเริ่มออกเดินเวลาประมาณ 13.15 น. ใช้เวลาในการเดินประมาณ 1 ชั่วโมง โดยถึงที่รัฐสภาราว 14.15 น. จากนั้นมีการทำกิจกรรมและปราศรัยจากตัวแทน

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการไอลอว์ ปราศรัยว่า กระบวนการล่ารายชื่อที่ผ่านมา มีคนไม่ต่ำกว่า 200-300 คน ยื่นมือมาช่วยเหลือ ทั้งแรงงาน, อุปกรณ์ และสถานที่ จึงเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ล่ารายชื่อได้อย่างรวดเร็วเป็นประวัติศาสตร์ และอีกส่วนที่ต้องแสดงความนับถือคือ 100,732 คน ที่ร่วมเป็นหนึ่งในรายชื่อ ถ้าไม่มีคนเหล่านี้จะไม่สามารถมาถึงวันนี้ได้

...

ทางด้าน น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ กล่าวว่า มากกว่า 60% เป็นรายชื่อของผู้หญิง สะท้อนให้เห็นถึงพลังของผู้หญิงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ พร้อมเรียกร้องต่อพรรคการเมืองให้รับฟังเสียงของประชาชนและตรวจสอบความคืบหน้าของข้อเรียกร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประชาชน ย้ำว่าไม่ได้จบแค่วันนี้ เราจะติดตามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐธรรมนูญ 2560 ต้องแก้ไขและต้องจบในรุ่นของเรา

ขณะที่ นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือ ฟอร์ด แกนนำคณะประชาชนปลดแอก ระบุว่า 100,732 รายชื่อ เป็นชัยชนะก้าวแรกของประชาชน ความเหลื่อมล้ำมาจากกลุ่มคนเล็กๆ ที่ต้องการรักษาสถานะความได้เปรียบของพวกตนเองไว้ รัฐธรรมนูญเป็นกลไกหนึ่งในการรักษาอำนาจความได้เปรียบนั้น ไม่มีอำนาจใดจะมาคัดง้าง หักล้างสิ่งที่ประชาชนต้องการได้ ประชาชนต้องกำหนดได้ทุกหมวดทุกมาตรา เราจะไม่ยอมให้มีการล็อกสเปกว่าห้ามแก้หมวดไหนทั้งสิ้น ถ้าเกิดคุณเลือกที่จะล็อกสเปกถือว่าเป็นกบฏต่อประชาชน สุดท้ายหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเร่งรัดให้ได้พิจารณาพร้อมร่างของพรรคการเมือง พร้อมทั้งกล่าวเชิญชวนว่า วันที่ 24 ก.ย. 2563 จะร่วมชุมนุมผลักดันให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนได้เข้าพิจารณาในสภาฯ

จากนั้น นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการไอลอว์ กล่าวถึงกรณีที่ นายชวน กล่าวว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชนพิจารณาไม่ทันในสมัยประชุมนี้ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐสภาไม่เคยให้ความสำคัญกับร่างกฎหมายของภาคประชาชน ลองดูว่าครั้งนี้รัฐสภาจะให้ความสำคัญกับ 100,732 รายชื่อหรือไม่ ที่ผ่านมาประชาชนสู้ด้วยสันติวิธี ไม่เคยใช้ความรุนแรง มีแต่ประชาชนที่ถูกกระทำด้วยความรุนแรงมาตลอด พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าประธานสภาฯ ไม่พิจารณา ท่านไม่ใช่นักประชาธิปไตย

ทั้งนี้ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขาธิการประธานสภาฯ เป็นผู้แทนมารับรายชื่อ พร้อมรับปากว่า จะนำรายชื่อเพื่อพิจารณาต่อไป ก่อนหน้านี้ได้แจ้งประธานสภาฯ ถึงกำหนดนัดหมายนี้แล้ว แต่ติดภารกิจการมอบรางวัลจึงไม่สามารถมาได้ นอกจากนี้ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวแสดงความยินดีที่ประชาชนรวบรวมรายชื่อได้มากกว่า 100,000 คน ซึ่งเจตนารมณ์ของฝ่ายค้านและประชาชนสอดคล้องต้องกัน ต้องขอโทษด้วยที่ฝ่ายค้านยื่นเร็วไป เพราะตระหนักว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ปล่อยช้าให้อยู่นานไม่ได้ ส่วนเรื่องข้อกังวลการล็อกสเปกในขั้นกรรมาธิการ ปรับได้ แก้ไขได้ ไม่ต้องกังวล ตอนนี้พรรคฝ่ายค้านกำลังพูดคุยกันว่าจะชักชวนตัวแทนภาคประชาชนเข้าไปนั่งในกรรมาธิการ

ส่วน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า สิ่งที่เห็นคือการเมืองแห่งความเป็นไปได้ เห็นแล้วว่า 43 วันรวบรวมรายชื่อได้มากเช่นนี้ มันเป็นไปได้ นี่คืออานุภาพของประชาชนและประชาธิปไตย โดยพรุ่งนี้จะอภิปรายว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ใช่แค่กลไกการสืบทอดอำนาจของ คสช. เท่านั้น แต่เป็นการเหนี่ยวรั้งประเทศไทยให้ย้อนหลังไป 40 ปี อย่าให้ใครมาปล้นทางออกสุดท้ายของประเทศไทย ส.ส.ร. จะต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง จากนั้น น.ส.เนตรนภา อำนาจส่งเสริม คณะประชาชนปลดแอก อ่านแถลงการณ์ก่อนเสร็จสิ้นกิจกรรม.