กลุ่มนักเรียนเลว จัดชุมนุมหน้า ศธ. โดยมีการเดินทางมาของหลายสถาบันเพื่อเรียกร้องปฏิรูปการศึกษา บน 3 ข้อเรียกร้อง 1 เงื่อนไข "ช่อ พรรณิการ์" โผล่ร่วมงาน มองเป็นการแสดงพลังในฐานะประชาชน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 ก.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานกิจกรรมของนักเรียนมัธยมศึกษาและองค์กรนักเรียน 50 โรงเรียนทั่วประเทศในนามกลุ่มนักเรียนเลว เดินทางมาชุมนุมปราศรัยบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษา เพื่อเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียม บน 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1.หยุดคุกคามนักเรียน 2.ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง และ 3.ปฏิรูปการศึกษา ส่วน 1 เงื่อนไข คือ หากทำไม่ได้ให้ลาออกจากตำแหน่ง โดยกิจกรรมวันนี้มีคณะประชาชนปลดแอกมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ทั้งนี้ นักเรียนที่เป็นแกนนำจะสวมเสื้อสีดำ ส่วนนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมมีการผูกโบสีขาวและนำเทปมาปิดชื่อและโรงเรียนที่เสื้อเพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดสิทธิ์น้องๆ ด้วย ซึ่งก่อนเริ่มการปราศรัยกลุ่มนักเรียนมีการทำกิจกรรมร้องเพลงสร้างบรรยากาศให้คึกคักสนุกสนานด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต และตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 กระจายกำลังกันรักษาความปลอดภัย โดยแกนนำระบุว่าต้องการส่งเสียงไปให้ถึงและเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นจริงๆ
...
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ เดินทางมาร่วมเป็นการ์ดในกิจกรรมนี้ด้วย โดย แอมมี่ ให้สัมภาษณ์ช่วงหนึ่งสั้นๆ ว่า ตั้งใจมาร่วมงาม และชื่นชมที่น้องๆ เป็นนักสู้ด้วยมันสมอง ขณะที่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ในช่วงเช้าว่าจะขอประเมิณสถานการณ์ก่อนว่าจะมีการออกมาดีเบตหรือร่วมพุดคุยกับของนักเรียนกลุ่มนี้หรือไม่
ทางด้าน น.ส.พรรณการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ช่วงหนึ่งว่า น้องๆ นักเรียนได้เรียนรู้การทำหน้าที่พลเมือง เขามาแสดงออกให้รู้ว่าระบบที่ผ่านมากดขี่ เป็นอำนาจนิยม รวมถึงเรื่องทรงผมก็เช่นกัน และจะอยู่ถึงกิจกรรมจบ เพราะอยากรอดูการดีเบตระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกับแกนนำ ส่วนเรื่องข้อเรียกร้องของนักเรียนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ อย่าไปตื่นเต้น มีการเรียกร้องอยู่เสมอ แต่เป็นครั้งที่เราเห็นความหวังมากที่สุด น้องๆ ตื่นตัวมาก และส่วนตัวคิดว่าถ้าแค่ให้เลิกหยุดการคุกคามแล้วทำไม่ได้ก็ไม่ต้องเป็นรัฐมนตรี
"ทุกวันนี้การเคลื่อนไหวของนักศึกษาและนักเรียนต่างอิสระ แต่เป็นหนึ่งเดียวกัน คือเป็นพลังในฐานะประชาชน พวกเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเสมอ".