การเมืองที่สภาฯ วันนี้ “เสรีพิศุทธ์” ตะเพิด “สิระ” หลังลาออก กมธ.ปราบโกง พร้อมฝากถึง “บิ๊กป้อม” ขอให้ช่วยคัดคนดีมีความรู้มาทำงาน เหน็บ มาเซ็นชื่อเพื่อรับเบี้ยประชุม
วันที่ 3 ก.ย. 2563 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ลาออกจากการเป็น กมธ. โดยให้เหตุผลว่าเพราะทำงานกับตนไม่ได้ แต่ถ้าไปดูคลิปมีการระบุว่า ตนได้ไปยุให้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ดำเนินคดีกับ นายสิระ กรณีมีเทปของ นายมงคลกิตติ์ ไปพูดคุยกับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ชี้แจงว่า กรณีนี้พูดไปว่า นายสิระ นำเทปมาเผยแพร่เป็นเรื่องของบริษัทกับ นายมงคลกิตติ์ ตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นเขายังไม่ได้เป็น ส.ส. จึงเป็นเรื่องของบุคคลธรรมดากับบริษัท ผู้เสียหาย หรือเจ้าทุกข์คือบริษัทที่จะต้องไปแจ้งความ นายมงคลกิตติ์ ในเรื่องกรรโชกทรัพย์ได้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ นายสิระ ก็ไม่มีอำนาจไปเรียกคนที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน ถ้าไปเรียกมาสอบเขาอาจจะมาร้องทุกข์ หรือแจ้งความ หรือมีหนังสือมาถึงตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ให้ดำเนินคดีกับ นายสิระ ได้ เป็นความหวังดีที่เกิดกับ นายสิระ เพราะหากไปเรียกเขามาอาจจะผิด
“นายสิระลาออกก็ดี กมธ.ป.ป.ช. จะได้มีที่ว่าง และอยากฝากไปยังพรรคพลังประชารัฐที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ช่วยคัดคนดี มีความรู้ ตั้งใจทำงาน มาช่วยทำงานหน่อย ตั้งแต่นายสิระเข้ามาก็มีเจตนารมณ์อยู่แล้วว่าเข้ามาเพราะอะไร เพราะ กมธ.มีมติที่จะสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร และ ครม. กรณีถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ พอมีมติออกไปทางพรรคก็คงจะกล่าวหาว่า กมธ. ในสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐปล่อยออกมาได้อย่างไร จึงส่ง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และนายสิระเข้ามาป่วน ทั้งไล่ผมไปตรวจสุขภาพจิต ฟ้องหมิ่นประมาท และเสนอถอดถอนผมออกจากประธาน กมธ. แต่ก็แพ้ไปหมด ทั้งยังส่ง นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้ามาอีก ซึ่งได้เสนอญัตติแต่ก็สู้ผมไม่ได้ จึงจะใช้เสียงข้างมากในสภาฯ เพื่อถอดถอน แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงญัตติ คาดว่าจะเข้าสมัยประชุมหน้า เดี๋ยวก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร”
...
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า เมื่อพรรคตอบแทนให้ไปเป็นประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ควรวางตัวให้เหมาะสม และไม่ควรไปเป็นกรรมาธิการอื่นๆ อีกแล้ว พร้อมอ้างว่าการที่ นายสิระ ยังอยู่เพื่อต้องการเบี้ยประชุม บางวันมาประชุม 1 นาที หรือครึ่งชั่วโมง แต่ไม่ทำอะไรสักอย่าง ถือว่าทุจริต ดังนั้นตนจึงขอฟ้องประชาชนและประธานสภาฯ ว่ามี ส.ส.ไม่สนใจทำงาน มาเซ็นชื่อเอาเบี้ยประชุมและออกจากห้องไป ซึ่งมีการจดบันทึกไว้เรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้เปิดเผยออกไป การที่นายสิระลาออก กล้าพูดไปตามตรงหรือไม่ว่าไม่มีความรู้ความสามารถที่จะทำงานอยู่กับตน อย่ามาหาเรื่องตนเพื่อตัวเองจะได้เป็นข่าว.