ถอยก่อนเดินต่อ เรือดำนํ้ายังโผล่ไม่ได้ ต้องยอมรับว่ากระแสต่อต้านการจัดซื้อเรือดำนํ้าค่อนข้างแรง ทั้งปัญหาการเมืองผสมกับความเป็นจริงในสังคมปัจจุบัน
มีนํ้าหนักพอที่จะให้รัฐบาลและกองทัพเรือต้องไปขบคิดเพื่อหาทางออกต่อสถานการณ์และความเป็นไปที่เกิดขึ้น
วันนี้รัฐบาลต้องเจอปัญหากดดันประเดประดังเข้ามาพร้อมๆกันจนหายใจหายคอแทบไม่ทัน หากไม่ตัดวงจรไปบ้าง
จะกลายเป็นมรสุมลูกใหญ่ที่หนักเกินกว่าจะรับได้
จากข่าวที่บอกว่ารัฐบาลจีนเห็นใจและเข้าใจพร้อมที่จะเลื่อนการจ่ายเงินตามข้อตกลงไว้ออกไปอีก 1 ปี
ซึ่งเม็ดเงิน 3,000 กว่าล้านก็ไปว่ากันในปีถัดไป ซึ่งจะนำเงินก้อนนี้ไปใช้ในกิจการที่เหมาะสมตามความจำเป็นในด้านเศรษฐกิจ
นั่นก็หมายความว่า กมธ.งบประมาณในส่วนของรัฐบาลก็คงจะยึดธงนี้เป็นแนวปฏิบัติคือตัดเงินก้อนนี้ไปใช้ในเรื่องอื่นๆ
การตัดสินใจของรัฐบาล ซึ่งนายกฯได้ประชุมกับสภากลาโหม ซึ่งคงมีการพิจารณาเรื่องนี้ และทางกองทัพเรือก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้
ที่สำคัญก็คือเปิดทางให้ประชาธิปัตย์มีทางถอย เนื่องจากมีบางส่วนจาก ส.ส.และ กมธ.ที่ประกาศชัดเจนไปแล้วว่าไม่เห็นด้วย
คือการยอมรับเงื่อนไขนี้ ซึ่งก็ไม่เสียหายอันใด
มิฉะนั้นจะเกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ส่งผลต่อเสถียรภาพ ซึ่งจะเป็นการเปิดจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามโหมกระหน่ำหนักเข้าไปอีก
ว่าไปแล้วประชาธิปัตย์มีปัญหามาหลายเรื่องแล้ว จนพูดกันว่ามีฐานะพรรคร่วมรัฐบาลหรือฝ่ายค้านในรัฐบาลกันแน่
เพราะเอาเข้าจริงแล้วปัญหาจริงๆก็คือความขัดแย้งในพรรคที่ส่งผลออกมานอกพรรคกระเทือนต่อรัฐบาลแทบทุกครั้ง
การเมืองถ้าเอาแต่ได้อย่างเดียวก็อยู่กันได้ลำบาก
แต่ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเงื่อนไขทางการเมืองที่ขยับตัวได้ลำบาก หากในรัฐบาลไปกันคนละทิศละทางก็ไปไม่รอด
“ยุบสภา”...ซึ่งเป็นทางออกทางหนึ่ง
แต่ก็ไม่มีพรรคไหนต้องการให้เป็นอย่างนั้น เพราะจะจบเห่กันทั้งหมด แม้แต่ประชาธิปัตย์เอง ก็กลัวและยังไม่พร้อมไม่ใช่หรือ
ล่าสุด กมธ.งบประมาณได้มีมติในเรื่องนี้แล้ว ด้วยมติเสียงข้างมากให้ชะลอการจัดซื้อเรือดำนํ้าออกไปก่อน 1 ปี
เท่ากับว่าเป็นทางออกดีที่สุด...
เพราะต้องยอมรับว่าการเจรจาตกลงเรื่องนี้ระหว่างรัฐบาลไทย-จีนนั้น จนทำให้มีการลงนามข้อตกลง ซึ่งจัดซื้อจำนวน 1 ลำ และต่อเนื่องไปถึงลำที่ 2-3
ย่อมมีผลผูกพันที่มิอาจปฏิเสธได้หากผู้ซื้อบิดพลิ้วก็จะมีปัญหาทั้งด้านธุรกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่
มิควรจะเกิดขึ้น
แต่เป็นเพราะความพยายามที่จะนำเรื่องนี้เป็นประเด็นการเมืองที่มีความต่อเนื่องกับประเด็นอื่นๆที่ทับซ้อนกันอยู่
อย่างน้อยรัฐบาลก็รับข้อเสนอและลดแรงกดดันไปได้พอสมควร.