นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และอดีต รมช.พาณิชย์ ซัด วิษณุ อย่าพูดปัดสวะพ้นตัว ปมป้องบิ๊กตู่รับผิดชอบให้รัฐบาลจ่ายเงินสู้กว่าร้อยล้าน คดีคิงส์เกต (เหมืองทองอัครา)

วันที่ 31 ส.ค. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลตั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทย กับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด วงเงิน 111,155,700 บาท ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งระงับการประกอบการกิจการเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ ทำให้เหมืองแร่ทองคำชาตรีต้องระงับการประกอบกิจการไปตั้งแต่ปี 2560 ล่าสุด คงต้องรอคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศจะมีคำวินิจฉัยออกมาเช่นไร

ทั้งนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบทั้งหมด เพราะใช้คำสั่งของ คสช.ไปสั่งระงับการทำเหมืองทอง ซึ่งกระทำมิได้ เพราะผิดข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทต่างชาติเขาไม่ยอมรับมาตรา 44 ที่ คสช.บังคับใช้ เป็นแค่กฎหมายเฉพาะกิจที่มีผลแค่ในประเทศไทย

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า กรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีฝ่ายการเมืองออกมาเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการต่อสู้คดี ออกมาแก้ตัวว่า รัฐบาลในขณะนั้นไม่ได้ใช้ ม.44 สั่งปิดเหมือง แต่เป็นการให้หยุดดำเนินการเหมืองไปก่อนเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมี พ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ แล้วให้เข้ามาขออนุญาตดำเนินการอีกครั้ง เนื่องจากมีหลายปัญหาเกิดขึ้น

“การพูดของนายวิษณุเป็นการพูดแบบปัดสวะให้พ้นตัวไป เพราะคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 72/2559 สั่งให้ผู้ประกอบการที่ได้รับประทานบัตรและใบอนุญาตทุกประเภท ยุติการทำเหมืองทองตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2560 จึงเป็นที่มาของการนำราชอาณาจักร เข้าสู่ข้อพิพาทกับบริษัทคิงส์เกต หากมีคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศออกมาว่า ไทยแพ้ ราชอาณาจักรไทยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ต้องถามว่าพลเอกประยุทธ์จะให้ราชอาณาจักรไทยต้องรับผิดชอบแทนความผิดที่ตัวเองก่อหรือไม่” นายสงคราม กล่าว.

...