นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู แจง อนุ กมธ.ครุภัณฑ์ ผ่านงบฯ ทร.ซื้อเรือดำน้ำ ยันพิจารณารอบคอบ เพื่อใช้ป้องกันประเทศ เป็นงบผูกพัน ปี 65-66 ชี้ขนาดกัมพูชายังมี 2 ลำ

วันที่ 22 ส.ค. นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 กล่าวถึง กรณีคณะอนุ กมธ.ฯ อนุมัติงบ 2.2 หมื่นล้านบาท ในการจัดซื้อเรือดำน้ำกองทัพเรือ 2 ลำ จากจีนว่า เป็นงบผูกพันที่กองทัพเรือขออนุมัติ ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งเขาซื้อมาแล้วตั้งแต่แรก เมื่อมาถึงการจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2563 กองทัพเรือ ได้ตั้งงบนี้ไว้ แต่ต่อมา เขานำงบส่วนนี้ไปช่วยในการแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 และปัญหาอื่นๆ เมื่อถึงการจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2564 กองทัพเรือจึงได้ตั้งงบประมาณสำหรับการจัดซื้อเรือดำน้ำมาอีกครั้ง รวมถึงจะต้องของบประมาณกรณีนี้เป็นงบผูกพัน ปี 65-66 ไม่ได้ใช้ในคราวเดียว

นางศิริวรรณ กล่าวต่อว่า ส่วนการลงมติที่ผลออกมา 4 ต่อ 4 เสียง และประธานอนุกมธ.ฯ ต้องใช้สิทธิโหวตนั้น เพราะคณะอนุกมธ.ฯ มีทั้งหมด 10 คน แต่อนุกมธ.ที่มาจากพรรคชาติพัฒนา ไม่อยู่ในห้องประชุม จึงเหลือผู้ร่วมประชุม 9 คน คือ ประธานอนุ กมธ. และอนุกมธ.จากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ฝั่งละ 4 คน ดังนั้น ประธานอนุกมธ.จึงต้องลงมติเพื่อชี้ขาด แต่เนื่องจากตัวประธานเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขาจึงต้องลงมติให้ฝ่ายรัฐบาล ถือเป็นปกติ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการพิจารณาของคณะอนุกมธ.ฯ ทำด้วยความรอบคอบ เราเข้าใจว่า ประเทศที่อยู่ในภาวะยากลำบาก แต่ด้วยเหตุผลของกองทัพเรือ ที่ชี้แจงว่า ได้ตัดงบประมาณส่วนอื่นแล้วจำนวนมาก และตัดโครงการอื่นๆ ไปหมด แต่เขาต้องดูแลอธิปไตยทางทะเล เรือดำน้ำ เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อใช้ป้องกันประเทศ และเพื่อนบ้านรอบประเทศไทย ก็มีเรือดำน้ำใช้ เช่น กัมพูชา มี 2 ลำ เวียดนาม 4 ลำ ตนเชื่อว่า ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ไม่น่าจะแก้ไขอะไร เพราะเป็นความจำเป็นของกองทัพเรือ และความจำเป็นของรัฐบาลด้านความมั่นคงของประเทศ

...