คณะประชาชนปลดแอก ออกแถลงการณ์ปิดการชุมนุม ย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง 2 จุดยืนไม่เอารัฐประหาร-รัฐบาลแห่งชาติ และ 1 ความฝัน การมี “ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ” อย่างแท้จริง
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะประชาชนปลดแอก - Free People ได้ออกแถลงการณ์ปิดการชุมนุม โดยมีเนื้อหาระบุว่า พี่น้องประชาชนผู้รักในประเทศไทย
เราต่างรู้ดีว่าการนั่งหลังขดหลังแข็งอยู่ตรงนี้ไม่ได้สนุกหรือบันเทิงจิตใจ บางคนอาจต้องเสียสละที่จะได้พักผ่อนในวันหยุดที่มีไม่กี่วันในสัปดาห์ บางคนอาจเสียโอกาสที่จะไปทำมาหากินสร้างงานสร้างรายได้
การที่เราทุกคนมาอยู่ตรงนี้เราต่างต้องเสียสละอะไรมากมาย แต่มันเทียบไม่ได้กับสิ่งที่ประชาชนไทยต้องเสียหากยังยอมอยู่ภายใต้อยุติธรรมต่อไป
ที่ผ่านมาเราเสียมามากพอแล้ว และเราจะไม่ยอมเสียมันอีกต่อไป ประเทศเราดีกว่านี้ได้ ไม่ใช่เพียงเพื่อพวกเราที่อยู่ตรงนี้แต่เพื่อพี่น้องชาวไทยผู้เป็นเจ้าของประเทศทุกคน
และหากจะมีใครถูกนิยามว่า “รักชาติ”
คนเหล่านั้น ควรเป็นเรา
เรา ที่ออกมาต่อสู้เพื่ออนาคตของประเทศชาติอย่างแท้จริง
หากผู้มีหน้าที่บริหารประเทศทั้งหลายฟังอยู่ จงอย่าขัดขวางความเจริญของประเทศอีกต่อไป และรับฟังข้อเรียกร้องทั้ง 3 ประการของเรา ที่ว่า
1.รัฐบาลต้อง “หยุดคุกคามประชาชน” ที่ออกมาใช้สิทธิและเสรีภาพตามหลักประชาธิปไตย
2.รัฐบาลต้อง “ร่างรัฐธรรมนูญใหม่” ที่มาจากเจตจำนงของประชาชน เพื่อประโยชน์แก่สาธารณชนอย่างแท้จริง
3.รัฐบาลต้อง “ยุบสภา” เพื่อให้ประชาชนสามารถแสดงเจตจำนงในการเลือกผู้แทนของตนได้อีกครั้ง
...
โดยตั้งอยู่บน 2 หลักการที่ว่า จะต้องไม่มีการรัฐประหารและการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
ภายใต้ 1 ความฝันคือ การมี “ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ” อย่างแท้จริง
สิ่งที่เราเรียกร้องนั้น สามารถเกิดขึ้นจริงได้ ตามกระบวนการที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ถึงแม้ข้อเรียกร้องจะขัดต่อผลประโยชน์ต่อกลุ่มคนผู้มีอำนาจ แต่หาใช่เป็นข้อเรียกร้องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
เราไม่อาจรู้ว่าเราต้องสู้อีกนานแค่ไหนกว่ากว่าสิ่งที่ร้องขอจะเกิดขึ้น
รู้เพียงแต่ว่า วันนี้เรามาไกลจากจุดเริ่มต้น ไกลเกินกว่าที่เราจะหยุด
ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลาย จงยืนหยัดต่อสู้ไปด้วยกัน
พื้นที่ที่เรายืนอยู่ตรงนี้ มิใช่เป็นพื้นที่ของผู้กล้าหาญเพียงเท่านั้น
แต่เป็นพื้นที่ของ เราทุกคน ที่ศรัทธาในความยุติธรรม
แม้เราอาจจะอยู่กับความอยุติธรรมมานาน
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องทนอีกต่อไป
แม้มันจะดูเหลือเชื่อ ก็ขอให้จงฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ
เพราะนี่ คือปณิธานที่หาญมุ่ง หมายผดุงยุติธรรมอันสดใส
และในวันที่ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
คณะประชาชนปลดแอก