"มิสเตอร์เกษตรแมน" จี้ รมว.พาณิชย์ เข้มงวดมาตรการพยุงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พร้อมตรวจสอบการนำเข้าข้าวสาลี-ข้าวบาร์เลย์-ดีดีจีเอส เหตุกระทบราคาข้าวโพดในประเทศ มั่นใจหากรัฐควบคุมได้ ก็ไม่ต้องจ่ายชดเชย 

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.63 นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึง รมว.พาณิชย์ (พณ.) เรื่องขอให้เข้มงวดมาตรการการพยุงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปีนี้ เนื่องจากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีพื้นที่เพาะปลูกมากเป็นลำดับที่ 5 รองจากข้าว ยางพารา อ้อย และมันสำปะหลัง ทั้งนี้ในแต่ละปีเกษตรกรประสบปัญหาที่แตกต่างกันไป ทั้งปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม โดยในปีที่ผ่านมา ประสบปัญหากับการระบาดของหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด แม้ว่าเกษตรกรจะต่อสู้กันมาตลอด มีทั้งแพ้ทั้งชนะแต่มีหนึ่งปัญหาที่ไม่เคยชนะ ก็คือราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำในช่วงการเก็บเกี่ยว และปีนี้ก็เช่นเดิม เวลานี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่ราคาก็ตกลงมารอเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงขอให้ รมว.พาณิชย์ เข้มงวดในมาตรการพยุงราคาข้าวโพด เช่น การนำเข้าข้าวสาลี ขอให้ตรวจสอบความถูกต้องและความชัดเจนว่ามีอัตราส่วน 3 ต่อ 1 ชัดเจนเพียงใด รวมถึงขอตัวเลขการนำเข้าข้าวสาลีในปีที่ผ่านมาและปีนี้ว่ามากน้อยเพียงไร ตลอดจนการนำเข้าข้าวบาร์เล่ย์และดีดีจีเอสมีจำนวนมากเกินไป จนกระทบต่อราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศหรือไม่

นอกจากนี้ ยังขอให้ทบทวนการนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน ในช่วงเดือน ก.พ.-ส.ค.ว่า มีผลกระทบต่อครอบครัวภายในประเทศหรือไม่ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า หากกระทรวงพาณิชย์ควบคุมมาตรการการพยุงราคาข้าวโพดภายในประเทศอย่างเข้มงวด จะทำให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปีนี้ ราคาไม่ต่ำกว่า 9 บาท อย่างแน่นอน และรัฐบาลก็ไม่ต้องใช้งบประมาณในการจ่ายชดเชยราคาส่วนต่างในโครงการประกันรายได้อย่างแน่นอน

...