“อนุพงษ์” สั่งด่วนผู้ว่าฯ ทั่วประเทศรับมือพายุซินลากู เฝ้าระวังแจ้งเตือนภัย พร้อมอพยพประชาชน ตั้งโรงครัวพระราชทาน ด้าน “นิพนธ์” กำชับติดตามใกล้ชิดพื้นที่ใกล้เชิงเขาเสี่ยงดินสไลด์

วันที่ 3 ส.ค. 2563 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ระบุว่า จากการติตตามสถานการณ์และผลกระทบจากกรณีพายุซินลากู พบว่าส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ในหลายพื้นที่ และยังส่งผลให้เกิดคลื่นลมแรงในทะเลฝั่งอ่าวไทยและในฝั่งอันดามัน เพื่อให้การรับมือผลกระทบจากพายุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอกำชับการดำเนินการตามแนวทางการเผชิญเหตุ ดังนี้

1. การเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัย ให้ติดตามการคาดการณ์ลักษณะอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำในพื้นที่ วิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ แจ้งเตือนภัยให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยและให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยถึงระดับชุมชน หมู่บ้าน สร้างการรับรู้ถึงแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย ช่องทางการรับความช่วยเหลือกับภาครัฐ

2. การอพยพประชาชนเมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดดินโคลนถล่มในพื้นที่ ให้ฝ่ายปกครองและองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตามแผนการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ประขาชนจิตอาสา เข้าดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นระบบ จัดสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพ การแจกจ่ายถุงยังชีพให้ครอบคลุมทั่วถึง และจัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อประกอบอาหารเลี้ยงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

...

3. เมื่อสถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น อาทิ ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์ สิ่งสาธารณูปโภค เพื่อให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูตามระเบียบโดยเร่งด่วนต่อไป

ทางด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า กรณีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง เอ่อท่วม เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ ได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 10 จังหวัดที่เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและอุทกภัย รงมถึงพื้นที่จังหวัดอื่นที่ได้รับผลกระทบ ให้เร่งดำเนินการประกาศเขตพื้นที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อที่จะสามารถใช้เงินงบประมาณตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 ได้ พร้อมสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานงานร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่นเร่งสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่เสียหายเพื่อช่วยเหลือต่อไป

พร้อมกันนี้ รวมไปถึงเตรียมการรับมือสถานการณ์พายุซินลากู ซึ่งขณะนี้ยังคงส่งอิทธิพลในพื้นที่ทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องทำให้ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ใกล้เชิงเขาอาจมีความเสี่ยงเรื่องดินสไลด์ ขณะเดียวกันให้เตรียมแผนเผชิญเหตุ แผนอพยพประชาชนในพื้นที่ใกล้ฝาย หรือแหล่งกักเก็บน้ำขนาดกลางและใหญ่ในพื้นที่ต่างๆ อย่างไรก็ตาม นายนิพนธ์ ยังกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานกรมชลประทาน และ อบจ.ในพื้นที่ บริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพไว้ใช้ในฤดูแล้งปีหน้าด้วย.