“นิด้าโพล” เผยคนอยากเห็นบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี หนุนม็อบเยาวชนปลดแอก ชี้เป็นสิทธิเสรีภาพ หากปราศจากอาวุธ และไม่ทำผิดกฎหมาย แนะ บิ๊กตู่ ควรรับฟังปัญหา

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ม็อบเยาวชนปลดแอก” จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ ทั่วประเทศ จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและในอีกหลายจังหวัด โดยเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการชุมนุม พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 26.56 ระบุว่า เป็นสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม หากปราศจากอาวุธและความรุนแรง รองลงมา ร้อยละ 26.16 ระบุว่า เป็นสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม หากไม่กระทำผิดกฎหมาย ร้อยละ 18.24 ระบุว่า เป็นการชุมนุมของพลังบริสุทธิ์ของนักศึกษา ร้อยละ 17.12 ระบุว่า เป็นการจัดชุมนุมเพื่ออนาคตของประเทศ

ส่วนร้อยละ 13.44 ระบุว่า เป็นการจัดชุมนุมเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ ร้อยละ 9.76 ระบุว่า เป็นจุดเริ่มต้นของความแตกแยกและสถานการณ์ความวุ่นวายในอนาคต ร้อยละ 8.88 ระบุว่า เป็นการจัดการชุมนุมเพื่อต่อต้านความไม่ยุติธรรมในสังคม ร้อยละ 7.04 ระบุว่า เบื่อการชุมนุมบนท้องถนน ร้อยละ 6.48 ระบุว่า เป็นการจัดชุมนุมเพื่อล้มรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 6.08 ระบุว่า เป็นการชุมนุมที่มีกลุ่มการเมือง/พรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ร้อยละ 5.68 ระบุว่า เป็นการจัดชุมนุมที่มีเจตนาอื่นแอบแฝง ร้อยละ 4.64 ระบุว่า เป็นแค่แฟชั่นการชุมนุม ทำตามกระแสตาม social media/ คำชักชวนของเพื่อน ร้อยละ 0.88 ระบุว่า เป็นการชุมนุมที่มีหน่วยงานต่างประเทศอยู่เบื้องหลัง ร้อยละ 0.72 ระบุว่า เป็นการชุมนุมที่มีการกระทำผิดกฎหมาย และร้อยละ 2.72 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

...

ด้านการเห็นด้วยของประชาชนต่อการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและในอีกหลายจังหวัด พบว่า ร้อยละ 34.72 ระบุว่า เห็นด้วยมาก เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกการชุมนุมของกลุ่มเยาวชน และอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง ไปในทางที่ดีขึ้นกว่านี้ ร้อยละ 19.28 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะเป็นสิทธิของกลุ่มเยาวชนที่จะเรียกร้องความถูกต้อง และอยากให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่านี้

นอกจากนี้ร้อยละ 18.08 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ กลัวสถานการณ์จะเกิดความรุนแรง วุ่นวาย และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ยังไม่หมดไป 100% เกรงว่าจะกลับมาเเพร่ระบาดรอบ 2 ร้อยละ 23.76 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะ ทำให้เกิดความวุ่นวาย เหตุผลยังไม่เพียงพอในการออกมาชุมนุม และยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 อยู่ และร้อยละ 4.16 ระบุว่า เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ส่วนความกังวลว่าประเทศไทยจะเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเหมือนในอดีต จากการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก พบว่า ร้อยละ 11.20 ระบุว่า กังวลว่าจะมีความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรง มากกว่า ในอดีต เพราะกลุ่มเยาวชนในปัจจุบันมีความเป็นตัวของตัวเองมากเกินไป หัวรุนแรง และสื่อนำเสนอข่าวในเชิงการปลุกระดม ร้อยละ 16.72 ระบุว่า กังวลว่าจะมีความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรง พอๆ กับในอดีต เพราะอาจมีการสร้างสถานการณ์เหมือนในอดีต ร้อยละ 29.76 ระบุว่า กังวลว่าจะมีความขัดแย้งทางการเมือง แต่คงไม่เท่าในอดีต เพราะรูปแบบการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนมีความแตกต่างจากในอดีต และคาดว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

ขณะที่ร้อยละ 16.88 ระบุว่า ไม่ค่อยกังวล เพราะเป็นการแสดงพลังของกลุ่มเยาวชนในการเรียกร้องให้รัฐบาลรับทราบถึงเหตุผลในการชุมนุมเท่านั้น และเป็นการชุมนุมเพียงระยะเวลาสั้นๆ ร้อยละ 23.68 ระบุว่า ไม่กังวลเลย เพราะ เป็นสิทธิในการแสดงเหตุผลของกลุ่มเยาวชน เป็นการชุมนุมอย่างสงบ และรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และร้อยละ 1.76 ระบุว่า เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรดำเนินการกับการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.72 ระบุว่า ควรรับฟังปัญหาจากกลุ่มนักศึกษาด้วยตนเอง รองลงมา ร้อยละ 20.40 ระบุว่า ควรยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ทันที ร้อยละ 13.68 ระบุว่า ควรรีบแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ร้อยละ 6.56 ระบุว่า ควรอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร ร้อยละ 5.36 ระบุว่า ควรใช้กลไกรัฐสภาในการฟังปัญหาจากกลุ่มนักศึกษา ร้อยละ 4.72 ระบุว่า ควรใช้กลไกราชการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ร้อยละ 2.88 ระบุว่า ควรใช้กฎหมายดำเนินการกับผู้กระทำผิด และร้อยละ 3.68 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ.