"ศรีสุวรรณ" ชี้ ถึงเวลาปฏิรูป ตร.-อัยการ จ่อ ชง.ป.ป.ช. 3 ส.ค. นี้ สอบเอาผิด ม.157 ตำรวจ เจ้าของสำนวนเป่าคดี "โคเคนรักษาฟัน" ให้บอส อยู่วิทยา 

วันที่ 1 ส.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า จากกรณีคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนฯ เชิญตำรวจมาชี้แจง กรณีไม่แย้งคำสั่งอัยการ ที่ไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต โดยพนักงานสอบสวนให้ข้อมูลว่า ได้รับการยืนยันจากหมอฟัน ว่า สารที่ตรวจพบในร่างกายนายวรยุทธ เป็นยาที่ให้ผู้ต้องหาในการรักษาฟัน ที่มีส่วนผสมของสารโคเคนอยู่ ทำให้ไม่สั่งฟ้องในข้อหามีสารเสพติดในร่างกายนั้น ว่า กรณีนี้ ทำให้มีทันตแพทย์จำนวนมาก ต่างออกมายืนยันว่า ปัจจุบันไม่มีการใช้สารเสพติดโคเคนในการรักษาผู้ป่วยแล้ว แต่ยอมรับว่า เคยใช้โคเคนเป็นยาชาเมื่อประมาณกว่า 100-150 ปีก่อน ส่วนยาชาที่ใช้ในปัจจุบัน อาทิ ลิโดเคน เมพิวาเคน อะทิเคน ไม่มีทางแปรเปลี่ยนเป็นโคเคนไปได้ แต่การที่ตำรวจเจ้าของสำนวนทำสำนวนเช่นนั้น ย่อมต้องมีพฤติการณ์พิเศษเกิดขึ้นแน่นอน ที่ตลกที่สุด คือ พอถูกจับได้ ก็ออกมาแถลงแบบเอาสีข้างเข้าถูว่า เป็นแค่การเข้าใจผิด การโต้แย้งข้อมูลเพื่อสะท้อนความจริงให้สาธารณชนรับรู้ร่วมกันนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความบกพร่อง ในการสอบสวนและการทำสำนวนคดีของตำรวจเจ้าของคดี ที่นับวันยิ่งจะชี้ชัดได้ว่า การทำสำนวนคดีต่างๆ ที่เกี่ยวกับนายวรยุทธ หรือบอส มีความเป็นอภินิหารทางสำนวนคดีมากมาย ที่ทำให้สังคมไทย ได้ล่วงรู้ความจริงมากขึ้นถึงกระบวนการทำงานของตำรวจไทย และอัยการ ที่ทำให้สาธารณชนต้องวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจและอัยการกันอย่างรุนแรง และถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องปฏิรูปตำรวจและอัยการ กันแบบถอนรากถอนโคนกันเลยทีเดียว ไม่เช่นนั้น กระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ที่เริ่มจากตำรวจจนมาถึงชั้นอัยการจะบิดเบี้ยวไปได้ง่ายโดยขาดการตรวจสอบและควบคุม จากประชาชน หรือองค์กรภายนอกที่เป็นอิสระ

...

“ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ตั้งแต่ชั้นตำรวจ จนถึงอัยการ มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนั้น มีพฤติการณ์ หรือการกระทำใดของใครบ้าง ที่เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยกันของประชาชน และอาจเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ และหรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 หรือตามที่กฎหมายกำหนด จนข้อหาบางข้อถูกลบหายไป หรือภาษาชาวบ้านว่าการเป่าคดีเพื่อนำไปสู่การไต่สวนสอบสวนเอาผิด ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งระบบทั้งตำรวจและอัยการ โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 3 ส.ค.63 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. จ.นนทบุรี” นายศรีสุวรรณ กล่าว