เข้าสู่โหมดปรับ ครม. “พี่ใหญ่-น้องเล็ก” หลบเคลียร์สูตรกลางทำเนียบฯต้น ส.ค.ได้เห็นหน้าตากันแล้ว พิสูจน์อำนาจ “3 ป.” จะฝ่าดงหนามไปได้แค่ไหน ออกมาดีหมายถึงมีอนาคตไปต่อได้
ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ถึงเวลาลาจากเมื่อ “สมคิด-4 กุมาร” ได้ ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเรียบร้อยไปแล้ว
ลงเอยด้วยสถานการณ์การเมืองเปลี่ยน คนก็ต้องเปลี่ยนไปตามเหตุและปัจจัย ถือว่าเป็นการจากกันด้วยดี
ไม่ต้องมานั่งตาใสอึมครึม...
หลอกคนได้แต่หลอกใจตัวเองไม่ได้...ฉันใดก็ฉันนั้น
ที่สำคัญก็คือประเทศต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อฝ่าดงปัญหาก้อนใหญ่มหึมา ซึ่งจะต้องได้ “คนเก่ง-คนกล้า” เข้ามาสะสาง
คั่นเวลาก่อนปรับ ครม.ใหม่ระหว่างนี้ต้องเหลือบตามองไปที่ระยองกันหน่อย หลังการ์ดตกจนโควิด-19 เข้ามาเขย่าเล็กๆ
คงเห็นภาพแล้ว แม้จะมีการนำเชื้อเข้ามาด้วยคนเพียงแค่ไม่กี่คน แต่ผลที่ตามมานั้นมันกินวงกว้าง
สงสารก็แต่ “คนเมืองฮิ” เศรษฐกิจกำลังจะเริ่มฟื้นไข้ใส่เงิน-ใส่ใจลงไปหวังจะฟื้นคืนชีพ พอมาเจออย่างนี้เข้า ถึงกับเหี่ยวเฉาไปทันที
ทำยังไงที่จะสร้างความรู้สึกให้เป็นเมือง “ปลอดไวรัส” ได้โดยเร็ว
นั้นแหละจึงเป็นหนทางที่จะเยียวยาอย่างถูกทาง
ทางหนึ่งที่เห็นและเป็นผลเอื้อก็คือ การตรวจแล้วพบว่าไม่มีการติดเชื้อแม้แต่คนเดียวในบรรดาพวกที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง
ใจเย็นๆรอกันอีกนิดแล้วจะดีเอง...
มาว่ากันเรื่องร้อนๆสะท้อนความเป็นไปของรัฐบาลว่าด้วยการปรับ ครม.โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจชุดใหม่
...
“คนเก่ง-คนดี” ยังไม่พอ...
เท่าที่สดับตรับฟังมายังต้องเพิ่มคุณสมบัติพ่วงมาอีก นอกจากจะต้องสางต่องานได้ทันที มีแนวคิดใหม่ๆ เพื่อรับกับปัญหา
ภาคเอกชนรับได้ ประชาชนรับได้
ก็หวังว่านายกฯซึ่งน่าจะมีไอเดียในใจแล้วว่า สูตรจะออกมาอย่างไร ใครเป็นใครกันบ้างบนฐานความเชื่อมั่นและมั่นคง
แม้บางคนจะปฏิเสธ บางคนจะตอบรับ ก็อย่างนี้แหละในทางการเมืองเป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องคิดหนักไม่น้อย
แต่ด้วยปัญหาของบ้านเมืองที่เห็นกันอยู่แล้วว่าหนักแค่ไหน อีกหลายคนคงมิอาจละเลยได้เมื่อมีความพร้อมและถูกทาบทาม
คงไม่น่าห่วงเท่าใด
ที่ห่วงกันก็ในส่วนของภาครัฐเองนั่นแหละจะจัดการอย่างไรกับ “คนการเมือง” ที่ปรารถนาจะมุ่งไปสู่ความสำเร็จ
“พี่ใหญ่” กับ “น้องเล็ก” แอบพบหารือกันใต้ถุนทำเนียบฯก็คงจะว่ากันด้วยเรื่องนี้ เพื่อกำหนดแนวทางปรับ ครม.
แม้เบื้องหน้าจะบอกว่าเป็น “อำนาจนายกฯ” แต่เบื้องหลังก็จำเป็นที่จะต้องว่ากันให้เรียบร้อยก่อนเพื่อความราบรื่น
ไม่ยุ่งยากก็คงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเพราะปล่อยให้เป็นไปตามโควตาเดิม อยู่ที่ว่าภายในแต่ละพรรคจะยุ่งกันเองหรือเปล่า...เท่านั้น
สำคัญที่สุดก็คือพลังประชารัฐที่จะ “นิ่ง” หรือไม่ และยังจะเป็นการพิสูจน์ “อำนาจ 3 ป.” ว่าจะควบม้าไปถึงเส้นชัยได้หรือไม่?
ผิดกระบวนท่าตกหลังเสือเมื่อใด...โดนขย้ำแน่!!!
“ลิขิต จงสกุล”