"อนันต์" เผยศาลนนทบุรีรับคำร้องขอเพิกถอนคำสั่ง ขับพ้นสมาชิก "พลังปวงชนไทย" ลั่นทำตามกติกาทุกอย่าง ชี้หากพรรคโปร่งใสจริงควรเปิดเผยเอกสารต่อสมาชิก ยันไม่เคยสร้างความแตกแยก เพียงแค่อยากให้พรรคเจริญก้าวหน้าตามวิถี "ประชาธิปไตย"
เมื่อวันที่ 17 ก.ค.63 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นายอนันต์ ฉิมบุรีรมย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย พร้อมสมาชิกพรรครวม 11 คน เข้ายื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้เพิกถอนประกาศ/คำสั่ง/หนังสือ ของพรรคการเมืองที่ พลท.ป.003/2562 ที่ นายนิคม บุญวิเศษ รักษาการหัวหน้าพรรคฯ ออกมาเพื่อขับตนกับเพื่อนจำนวนหนึ่ง ออกจากความเป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งศาลก็รับฟ้องแต่ไม่ไต่สวนเร่งด่วน และหลังจากนี้ก็ต้องรอคำสั่งศาลต่อไปว่า จะออกมาเป็นอย่างไร ให้คุ้มครองชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ โดยให้มีการระงับการประชุมสามัญของพรรคพลังปวงชนไทย ในวันที่ 18 ก.ค.นี้ และให้คุ้มครองสิทธิ์ของตนและพวก ในการสมัครลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค
โดยนายอนันต์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงการมีมติที่มิชอบในการขับตนออกจากพรรค และขอให้ระงับการจัดการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค ซึ่งทาง กกต.รับเรื่องไว้แล้ว แต่เรื่องอาจจะใช้เวลาพิจารณาหลายวัน ดังนั้นตนจึงดำเนินการต่อในการยื่นเรื่องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ตรงนี้ตนได้ทำตามทุกอย่างตามขั้นตอนอย่างตรงไปตรงมา แม้ไม่ได้เข้าประชุมก็ไม่เป็นไร เพราะแสดงให้เห็นว่า ตนในฐานะผู้ถูกกระทำ พร้อมที่จะเล่นตามกติกา เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมที่จะมีผลออกมาหลังจากนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ตนก็จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อให้ได้ความถูกต้องยุติธรรม เพื่อให้พรรคมีการบริหารที่โปร่งใส เป็นที่พึ่งของประชาชนได้
...
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่พรรคพลังปวงชนไทย มีการแถลงว่าตนและทีมงานมีพฤติกรรมสร้างความขัดแย้ง และแตกแยกภายในพรรค และยืนยันว่าพรรคมีการบริหารงานที่โปร่งใสนั้น ตนขอยืนยันว่าตนไม่เคยมีพฤติกรรม ที่พยายามสร้างความแตกแยกของคนในพรรค ตนเพียงอยากให้พรรคมีการบริหารงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งหากพรรคมีความบริสุทธิ์ใจจริงๆ มีการบริหารที่โปร่งใสตามที่แถลง และไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง ก็ขอให้นำเอกสารต่างๆมาเปิดเผยต่อสมาชิกให้กระจ่าง ตามวิถีประชาธิปไตยที่พรรคยึดถือมาตลอด
"ผมไม่เคยมักใหญ่ใฝ่สูง หรืออยากมีตำแหน่งอะไรในพรรค แต่สมาชิกพรรคและสาขาของพรรคต่างขอร้องให้ผมลงสมัครหัวหน้าพรรค เพื่อหวังที่จะให้พรรคเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น เป็นพรรคที่เป็นประชาธิปไตย และเป็นของประชาชนจริงๆ ดังนั้นผมจึงต้องสู้เพื่อทุกคน ผมอยากพัฒนาพรรคให้เจริญรุ่งเรือง ทำสาขาให้แข็งแรง เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงแก่พรรค ผมสู้อย่างแฟร์ๆไม่เคยใช้วิธีสกปรก เพราะการเมืองเป็นเรื่องของประชาธิปไตย พวกเขาเองก็ประกาศยืนข้างประชาธิปไตย ดังนั้นการลงแข่งขันกันถือเป็นเรื่องธรรมดา ควรต้องแข่งขันกันโดยชอบธรรม แพ้ชนะกันอย่างขาวสะอาดอย่ามาใช้วิธีสกปรก ผู้ชนะถึงจะสง่างาม" นายอนันต์ กล่าว