ตู่รับ-พลาดได้ "ประสาร" "ทศพร" ปัดร่วมวงคณะรัฐมนตรี

นายกฯถูกแซวอารมณ์ดี เรียกพี่ใหญ่ซดก๋วยเตี๋ยว ยันป้อมคุมเกมการเมือง ไม่มานั่งเก้าอี้มหาดไทย

“ลุงป้อม” ดอดขึ้นตึกไทยฯซดก๋วยเตี๋ยวกับ “ลุงตู่” สะพัดส่งโผโควตา พปชร. “ประยุทธ์” ยันพรรคร่วมยังคงโควตาเดิมไม่ลดไม่เพิ่มปรับไม่เล็กไม่ใหญ่ไม่ถึง 50% รอคนนอกตอบรับ ให้ “พี่ป้อม” นั่งเก้าอี้เดิมช่วยคุมเกมการเมือง รับทาบ “ปรีดี” แต่ไม่มีชื่อ “ทศพร” แจงวืดตัว “ประสาร” เหตุครอบครัวไม่อนุญาต ยังกั๊กตั้งรองนายกฯเศรษฐกิจ อารมณ์ดียิงมุกยังควบม้าคุม กห.ต่อ “ทศพร” ร่อนสารปัดร่วมวง ครม. “พี่ใหญ่” ให้สิทธิ “น้องตู่” เต็มที่ ไม่มีจับพลัดจับผลูโยกไปนั่ง มท. เริ่มฉุนถูกจี้ถามย้ำมีเอี่ยวชงชื่อ “บี” แจง กก.บห.พปชร.ถกปรับครม. 21 ก.ค. มั่นใจคุยกันจบไม่มีแทงหลัง “จุรินทร์” ชี้ ปชป.ยังเกาะขบวนแน่น ก้าวไกลฝากการบ้านทีม ศก.ใหม่ พท.ฉะเวทีปฏิรูปคืนสู่เหย้าชาวนกหวีด

การปรับคณะรัฐมนตรีโดยเฉพาะในส่วนของทีมเศรษฐกิจ เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ยืนยันรอการตอบรับจากคนนอกที่ทาบทามอยู่ และจะไม่ไปแตะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลตามโควตาเดิมที่เคยตกลงกันไว้ช่วงเจรจาจัดตั้งรัฐบาล

กก.บห.พปชร.ถกปรับ ครม. 21 ก.ค.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ก.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรีว่า มีการหารือกันในเบื้องต้นว่าในส่วนของพรรคเรามีระบบการจัดทำบัญชี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร. ให้นโยบายว่าทุกอย่างจะหารือพูดคุยกันในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) วันที่ 21 ก.ค. หัวหน้าพรรคจะเชิญ กก.บห.ทั้งหมดมาพูดคุยกัน ส่วนจะสรุปได้หรือไม่นั้น อยู่ที่การพูดคุยกัน มีระบบชัดเจน มีหัวหน้า รองหัวหน้า กก.บห. ทุกคนคงมีส่วนร่วมเสนอชื่อ ส่วนจะสรุปเมื่อไหร่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และสุดท้ายมาอยู่ที่หัวหน้าพรรค ยังมีเวลาการปรับ ครม. อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จะเป็นผู้พิจารณา

มั่นใจคุยกันจบไม่มีแทงข้างหลัง

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวปรับลดรัฐมนตรีในสัดส่วนของ กทม. ทำให้ทุกคนจับตามาที่นายพุทธิพงษ์ นายพุทธิพงษ์ตอบว่า ไม่ทราบ แต่ในพรรคเราเคารพกัน แต่ละภาคแต่ละส่วนเราดูแลด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว สำหรับตนวันนี้ทำงานอย่างเดียว ข่าวที่ออกมาไม่ทำให้เสียกำลังใจ เมื่อถามว่าตอนตั้งรัฐบาลมีการตกลงกันหรือไม่ว่าให้เป็นรัฐมนตรีกันคนละรอบ นายพุทธิพงษ์ตอบว่า ไม่มี พรรคเราพูดคุยกันได้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เราต่อสู้ร่วมกันมา ในพรรคมีอะไรหลายอย่างที่เราพูดคุยกันมาตลอด ไม่ได้หนักเหมือนที่เป็นข่าว เชื่อว่าจะพูดคุยกันได้ และทุกครั้งไม่ถึงกับต้องโหวต เชื่อว่าทุกคนเคารพในแนวคิดของพรรคและเชื่อว่าจะไม่มีการแทงกันข้างหลัง

ไม่ก้าวก่ายนายกฯ ตั้งคนนอก

เมื่อถามว่ากระแสข่าวมีชื่อคนนอกเข้ามาทางพรรครับได้หรือไม่ นายพุทธิพงษ์ตอบว่า เป็นเรื่องที่นายกฯตัดสินใจ เราคงไม่ก้าวก่าย แต่ในส่วนของพรรคเรามีการพูดคุยกันเสนอชื่อที่เราเห็นว่าเหมาะสม แต่การตัดสินใจเป็นอำนาจของนายกฯ เมื่อถามว่าตำแหน่ง รมว.พลังงานสนับสนุนใครเป็นพิเศษหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ตอบว่า ไม่มี ใครก็ได้ แล้วแต่นายกฯเลือก เมื่อถามว่า โควตานายกฯควรอยู่ที่นายกฯ หรือควรดึงกลับไปที่พรรค นายพุทธิพงษ์ตอบว่า อำนาจการปรับและการเลือกเป็นของนายกฯ ตัดสินใจเลือกใครคิดว่าทุกคนรับได้ ไม่มีโควตาของใครทั้งนั้น สุดท้ายนายกฯจะเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะท่านเป็นผู้นำรัฐบาล เราต้องเชื่อมั่นในผู้นำรัฐบาล เมื่อผู้นำตัดสินใจอย่างไรเราก็เดินไปตามนั้น และทุกครั้งที่นายกฯตัดสินใจในหลายเรื่องก็ถูกต้องทุกครั้ง

“พี่ใหญ่” ให้สิทธิ “น้องตู่” เต็มที่

ต่อมาเวลา 12.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ต้องไปถามนายพุทธิพงษ์ ตนไม่รู้เลย พรรคยังไม่มีการประชุมกันเลย ประชุมกันก่อนค่อยว่ากัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของหัวหน้า แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนในพรรคต้องพูดคุยกัน และเรื่องการตั้ง ครม. บอกแล้วว่าเป็นเรื่องของนายกฯ เมื่อถามว่ามีโควตา รมต.ของพรรคหรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า โควตาไหนล่ะ ไม่มี ไม่มี ทุกอย่างเป็นเรื่องของนายกฯ เมื่อถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรคต้องส่งชื่อให้นายกฯพิจารณา พล.อ.ประวิตรตอบว่า ในพรรคยังไม่มีการพูดคุยกันเลย ยังไม่ได้คุยกับ กก.บห.พรรค

ไม่มีจับพลัดจับผลูโยกนั่ง มท.

เมื่อถามว่าจะมีการสลับเก้าอี้กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ไม่รู้ ต้องไปถามนายกฯ โอ้ยไม่มีหรอก ไม่มี ไม่ย้าย” เมื่อถามย้ำว่าหากจับพลัดจับผลูสลับเก้าอี้กันพร้อมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่มีจับพลัดจับผลูหรอก ถามอยู่อย่างเดียว

ซัดสื่อยันลูกพรรคเรียบร้อยดี

เมื่อถามว่า โควตา รมต.ที่ลาออกถือเป็นของพรรคหรือของนายกฯ พล.อ.ประวิตรตอบว่า เป็นโควตานายกฯจะเอาใครมาก็เป็นเรื่องของท่าน ส่วนข่าวว่าในพรรคมีการต่อต้านมาเป็น รมต.นั้น ยืนยันว่าไม่มี มีแต่พวกคุณพูดกันเอง เมื่อถามว่า ถ้าเป็นโควตานายกฯ แสดงว่าทีมเศรษฐกิจอาจเป็นคนนอกทั้งหมดใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ก็แล้วแต่นายกฯ เมื่อถามว่า จะเคลียร์กับ ส.ส.ที่เป็นตัวเต็งที่ต้องการกระทรวงพลังงานอย่างไร พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ไม่มี บอกแล้วว่าเป็นเรื่องของนายกฯ ฟังไม่รู้เรื่องหรือครับ” เมื่อถามอีกว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรค พปชร. ต้องการเก้าอี้ รมว.พลังงาน หากไม่ได้จะเกิดแรงกระเพื่อมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบได้แต่ส่ายหัวแทน เมื่อถามว่า ในพรรคเรียบร้อยดีใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า เรียบร้อยไม่มีอะไร มีแต่พวกคุณไปเขียนกันเอง

เริ่มฉุนถูกถามย้ำมีเอี่ยวชงชื่อ

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรจะมีส่วนเขย่าคุณสมบัติรัฐมนตรีก่อนส่งให้นายกฯหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่มี ไว้ประชุมเสร็จแล้วจะบอก เมื่อถามว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้จะมีแต่พลังประชารัฐหรือพรรคร่วมอื่นด้วย พล.อ.ประวิตรตอบน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “อะไรฟังไม่รู้เรื่องหรอ บอกว่าเป็นเรื่องนายกฯ”เมื่อถามย้ำว่านายกฯได้ปรึกษาเรื่องการปรับ ครม.หรือไม่พล.อ.ประวิตรตอบสั้นๆว่า ไม่ได้ปรึกษา เป็นเรื่องของท่าน

“ลุงป้อม” ดอดซดก๋วยเตี๋ยว “ลุงตู่”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการให้สัมภาษณ์เสร็จขบวนรถของ พล.อ.ประวิตร ได้วนขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นประมาณ 10 นาที นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเหรัญญิกพรรค พปชร. ได้เดินตามขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า ประมาณ 30 นาที พล.อ.ประวิตรจึงเดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า มายังตึกภักดีบดินทร์ เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตรขึ้นมาส่งรายชื่อรัฐมนตรีโควตา พปชร.แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์หยุดฟังพร้อมตอบว่า “กินข้าวกันก่อน เขามาประชุมที่นี่ก็เลยมากินข้าวด้วยกัน พูดคุยกันเรื่อยเปื่อย” เมื่อถามว่ากินข้าวอร่อยไหม นายกฯตอบว่า “กินก๋วยเตี๋ยว” ทั้งนี้ ถือว่าไม่บ่อยนักที่ พล.อ.ประวิตรจะขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าเข้าพบนายกฯ

พรรคร่วมยังคงโควตาตามเดิม

จากนั้นเวลา 15.25 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า พล.อ.ประวิตรมาพบเพราะมาประชุมที่ตึกบัญชาการ ตนไม่ค่อยได้เจอท่าน สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ทั้งหมดอยู่ในหัวหมดแล้ว การทาบทามบุคคลต่างๆต้องให้เวลาเขาได้คิด ยืนยันว่าขั้นตอนจนถึงวันนี้ยังไม่ทำอะไรเลย ไม่ว่าการกรอกคุณสมบัติหรืออะไรวันนี้แค่ติดต่อถามว่ายินดีจะมาร่วมกันทำงานไหม หลายคนก็บอกว่าบ๊ายบาย เมื่อถามว่า ปรับเล็กหรือปรับใหญ่ นายกฯทำท่าคิดก่อนกล่าวว่า ไม่ได้เล็กไม่ได้ใหญ่ ไม่ถึง 50% คนเดิมยังอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะมีการปรับหรือไม่ หรือยังโควตาเดิม พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า พรรคร่วมไม่ได้แสดงเจตนารมณ์ว่าจะปรับ ตนได้พูดคุยแล้วยืนยันว่าไม่มี และได้ตามเดิมที่เคยได้อยู่ เขาไม่ได้มีปัญหาอะไรและไม่ได้ขอปรับอะไรเพิ่มเติม คุยกันรู้เรื่อง ยังทำงานร่วมกันได้อยู่ ไม่ได้มีปัญหาอะไร

“พี่ป้อม” นั่งเก้าอี้เดิมช่วยการเมือง

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรยังนั่งเก้าอี้เดียวเหมือนเดิม หรือควบตำแหน่งใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ท่านไม่มี ท่านไม่ได้ต้องการไปที่ไหน ท่านก็ทำงานหนักขึ้นอยู่แล้ว และได้ก็พูดกับผมว่าที่ท่านอยู่นี้ก็เพื่อช่วยงานผมในด้านการเมืองและก็ไม่ได้ต้องการตำแหน่งอะไรอีก ท่านก็ตอบไปแล้วนี่ จะมาถามย้ำกันอีกทำไม วันนี้ผมตอบให้แล้วนะ”

รับทาบ “ปรีดี” แต่ไม่มีชื่อ “ทศพร”

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่คณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจจะมาร่วมทีมเศรษฐกิจ นายกฯ ตอบว่า มีชื่อที่ออกมาบ้าง ส่วนนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย ยอมรับว่าได้ทาบทาม แต่ต้องรอดูตอบรับมาว่าอย่างไร ส่วนชื่อนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นั้น ยืนยันไม่มีแน่นอน สื่อไปเอามาจากไหน และนายทศพรก็ไม่ได้อยากมา วันนี้ท่านต้องมาช่วยงานตนเพราะเป็นข้าราชการอยู่ ส่วนที่เห็นนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีต รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษด้วยนั้น ไม่ได้ถือว่าส่งสัญญาณอะไร ไปในฐานะคนศรีสะเกษที่เป็นบ้านเกิด ยอมรับเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่อจากนี้หนักแน่นอน เราจึงต้องเลือกคนให้ตรงกับสถานการณ์ปัจจุบัน เมื่อถามว่า ครม.ใหม่ไม่มีข้าราชการประจำลาออกมาเป็นรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า ไม่มี ส่วนรัฐมนตรีคนนอกมีกี่คนนั้นจำไม่ได้แล้ว ไม่อยากจะจำ

วืด “ประสาร” ครอบครัวไม่อนุญาต

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีมีชื่อนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการ ธปท.จะเข้ามาร่วมว่า เพราะครอบครัวไม่อนุญาต เมื่อถามถึง รมว.ต่างประเทศจะมีปรับเปลี่ยนหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ มีปัญหาด้านสุขภาพ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ยังแข็งแรงดี แต่ทั้งหมดกำลังพิจารณากันอยู่ เมื่อถามว่ายังจำเป็นต้องมีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ฟังนะในเมื่อนายกฯเป็นฝ่ายเศรษฐกิจแล้วก็ต้องดูแลทุกกระทรวง อะไรที่มีรายได้นายกฯสั่งการได้ทั้งหมด ฉะนั้นทุกคนต้องมาหารือกัน ต้องเข้าใจว่าเมื่อก่อนนี้มันต่างกัน ที่ด้านเศรษฐกิจมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯเป็นผู้คุม ซึ่งเป็นรัฐบาลที่มีจากการจัดตั้งเป็นกรณีพิเศษ ท่านสามารถจัดประชุมและสั่งการได้ทุกกระทรวง แต่วันนี้กระทรวงเศรษฐกิจหลายกระทรวงไปอยู่ในสัดส่วนพรรคร่วมรัฐบาล แต่ผมเป็นผู้คุมทั้งหมด ดังนั้นนายกฯเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่ว่าตนเก่งเศรษฐศาสตร์หรือเก่งอะไร แต่ต้องการเอาทุกอย่างมาพิจารณา วิเคราะห์ ศึกษา และปรึกษากับทีมที่ปรึกษาที่มีหลายภาคส่วน วันนี้เราต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จำเป็นต้องเอาคนที่มีความรู้มาเสริม จะได้เหมาะกับห้วงเวลานี้ ที่บางทีต้องใช้ทั้งนักเศรษฐศาสตร์ การเงินการธนาคารมาช่วยกัน และต้องใช้คณะทำงานที่ปรึกษาทำงานร่วมกับ ครม. เศรษฐกิจแล้วไปขับเคลื่อนงานด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น ครม.เศรษฐกิจก็คือทีมของรัฐบาล ทุกอย่างจะได้หลากหลายมากขึ้น”

อารมณ์ดียิงมุกยังควบม้าอยู่

เมื่อถามว่าพูดเช่นนี้แสดงว่าอาจไม่มีรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ แต่มีก็ดี ตนก็ดูทั้งหมดอยู่แล้ว เมื่อถามว่านายกฯยังคงควบเก้าอี้ รมว.กลาโหมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ทำไมละ ผมมีปัญหาอะไร ไม่มี วันนี้ผมควบม้าอยู่ วันนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม” เมื่อถามว่าวันนี้ดูเหมือนนายกฯอารมณ์ดีแสดงว่าการจัดทัพทุกอย่างลงตัวแล้วใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า ไม่ได้มีงานอย่างเดียว มีงานเยอะแยะไปหมด จึงต้องปล่อยวางให้ได้ เมื่อถามย้ำว่าทุกอย่างเรียบร้อยเหลือเพียงขั้นตอนธุรการใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “อย่ามาซักเรื่อยเปื่อย วันนี้อยู่ในขั้นตอนการติดต่อ บางคนก็ตอบแล้ว บางคนยังไม่ตอบ บางคนขอกลับไปปรึกษาครอบครัวก่อน สิ่งสำคัญที่สุดคือครอบครัว” ยืนยันการปรับ ครม.จะเสร็จสิ้นไม่เกินเดือน ส.ค. เมื่อถามว่าโฉมหน้า ครม.ใหม่จะแจ่มใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า คิดว่าน่าจะดี ขอให้รอดูที่ผลงาน

“ทศพร” ร่อนสารปัดเข้าร่วม ครม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้ส่งเอกสารข่าวแจ้งว่าเลขาธิการ สศช. ปฏิเสธข่าวการเข้าร่วม ครม. โดยนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ศสช. ระบุว่า เรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ว่าได้ตอบรับเข้าร่วม ครม.ชุดใหม่แล้วนั้น ไม่เป็นความจริง ขณะนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่เป็นเลขาธิการ สศช.ตามปกติ และยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องดูแลและกลั่นกรองโครงการ และแผนงานเงินกู้ 4 แสนล้านบาทให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย อย่างไรก็ดีเมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยและสนับสนุนงานอยู่เบื้องหลังของนายกฯตามที่ได้รับมอบหมาย

เก้าอี้คลัง–พลังงานวัดภาวะผู้นำ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากพรรค พปชร.ว่า การประชุม กก.บห.ที่จะมีขึ้นวันที่ 21 ก.ค. จะมีการพิจารณาเสนอชื่อรัฐมนตรีโควตาของพรรคให้นายกฯพิจารณา ในส่วนเก้าอี้ รมว.คลัง และ รมว.พลังงาน แม้แกนนำบางคนอยากมานั่ง แต่โจทย์สำคัญที่นายกฯมองคือต้องแก้ปัญหาในภาวะวิกฤติ ไม่ใช่ตอบโจทย์ความต้องการฝ่ายการเมืองเท่านั้น ทั้งสองตำแหน่งเป็นโควตาคนนอกที่เป็นมืออาชีพ และนายกฯยังตั้งใจจะปรับให้น้อยที่สุดแทนตำแหน่งที่ว่างเท่านั้น เพื่อลดแรงกระเพื่อม โดยเก้าอี้ รมว.คลังรอเพียงการตอบรับจากนายปรีดี ดาวฉายเท่านั้น ส่วน รมว.พลังงาน เป็นไปได้สูงที่นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม จะมารับตำแหน่ง ทั้งจากประสบการณ์และมีความสัมพันธ์กับ 3 ป. เชื่อว่าทั้งคู่จะได้รับเสียงตอบรับที่ดี รวมถึงเป็นบทพิสูจน์ภาวะผู้นำของนายกฯ

พปชร.ชงสองสูตรให้นายกฯจิ้ม

ทั้งนี้ มีรายงานว่าพรรค พปชร.เตรียมจัดทำโผ ครม.เป็น 2 สูตร เสนอต่อนายกฯ สูตรแรก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ไปนั่ง รมว.พลังงาน แล้วดันนายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค ไปนั่ง รมว.อุตสาหกรรม แทน ขณะที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค เสนอให้เอาโควตา รมว.อว. ไปแลกกับ รมว.แรงงานของพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่เสนอชื่อนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ มาเป็น สูตรสอง คือ ให้นายอนุชาไปดำรงตำแหน่ง รมว.อว. ส่วนนายสุชาติไปเป็น รมช.มหาดไทย ขณะที่ พล.อ.ประวิตรมีความพยายามผลักดันให้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล ไปนั่งเก้าอี้ รมต.ประจำสำนักนายกฯ แทนนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) เพราะปัจจุบันรัฐบาลไม่ได้มีเสียงปริ่มน้ำแล้ว เพราะคนที่รับปากให้เก้าอี้ ชพน.ตอนจัดตั้งรัฐบาล คือ นายอุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้าพรรค ที่ลาออกไปแล้ว

“วิษณุ” ถามสื่อ “จะมาไล่ผมหรอ”

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ระบุจะปรับ ครม.ไม่เกินเดือน ส.ค. ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับสัญญาณ ฟังแต่จากสื่อ เมื่อถามว่านายวิษณุยังอยู่ใน ครม.ใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่รู้ จะไปตอบได้อย่างไร เมื่อถามว่าไม่ได้เหนื่อยไม่ได้ล้าใช่หรือไม่ เพราะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ระบุว่า ต้องการไปดูแลสุขภาพ นายวิษณุตอบว่า การดูแลสุขภาพเป็นหน้าที่ของทุกคนอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่ายังแข็งแรงดีอยู่ใช่หรือไม่ นายวิษณุย้อนถามสื่อว่า “คุณจะมาไล่ผมหรอ”

เตรียมตั้งรักษาการแทนสี่กุมาร

เมื่อถามว่าการลาออกของกลุ่ม 4 กุมาร จะกระทบต่อการทำงานหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า เคยมีคำสั่งเดิมอยู่แล้วว่าหากใครไม่อยู่ ใครจะเป็นผู้รักษาการ แต่บางตำแหน่ง เช่น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีต รมว.การอุดมศึกษาฯ ไขว้กันอยู่ เมื่อออกไปทั้งคู่จึงไม่มีผู้รักษาการ ดังนั้น ในที่ประชุม ครม. วันที่ 21 ก.ค. นายกฯจะสั่งการใหม่ จะปล่อยว่างไม่ได้ ส่วนตำแหน่ง รมว.คลังไม่มีปัญหา เพราะมี รมช.คลังรักษาการอยู่ เมื่อถามว่ารัฐมนตรีลาออกหลายคนเช่นนี้กระทบเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ทราบ ไม่ตอบ เมื่อถามย้ำ ว่าแล้วจะกระทบเรื่องการทำงานหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า มันก็ต้องกระทบบ้าง จะบอกว่าไม่กระทบได้อย่างไร นายกฯจึงบอกว่าจะเร่งแก้ปัญหานี้โดยเร็ว เมื่อถามว่ารู้สึกเสียดายนายสมคิดหรือไม่ เพราะทำงานร่วมกันมาหลายยุค นายวิษณุตอบว่า “อย่าเพิ่งตอบ เดี๋ยวน้ำตาไหล”

“เทวัญ” หนุน “ปรีดี” เจ๋งจริง

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงการปรับ ครม. ว่า ไม่ทราบว่าในส่วนของโควตาพรรคชาติพัฒนาจะปรับเปลี่ยนหรือไม่ และยังไม่ได้รับการติดต่อ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายกฯ เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามีชื่อคนมาแทนในตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯแล้ว นายเทวัญตอบว่า ไม่ทราบเมื่อถามว่ามองรายชื่อทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ที่ปรากฏออกมาอย่างไร นายเทวัญตอบว่า เห็นมีชื่อนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย จริงๆท่านก็เป็นคนเก่ง และรู้จักกันดี เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยกับนายกฯหรือไม่เรื่องการปรับ ครม.ในส่วนของพรรค นายเทวัญตอบว่า ยังไม่คุยกับนายกฯ ช่วงนี้ท่านเดินทางไปต่างจังหวัด ตนก็งานยุ่งทั้งวัน ไว้ทราบแล้วจะบอก

“จุรินทร์” ยังเกาะขบวนแน่น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังเข้าพบนายกฯที่ทำเนียบรัฐบาลว่า นายกฯยังไม่ได้พูดคุย เรื่องปรับ ครม. เมื่อยังไม่ได้แจ้งอะไรก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เมื่อถามว่าโควตาพรรคประชาธิปัตย์ยังคงเดิมใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ ยังไม่แจ้งอะไร เมื่อถามว่าถ้าต้องปรับเปลี่ยนโควตา พรรคประชาธิปัตย์ยังจะเหนียวแน่นกับรัฐบาลอยู่หรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เงื่อนไขทั้งหมดในการเข้าร่วมรัฐบาลยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังเหมือนวันแรกที่ได้คุยกัน

กระเพื่อมเกมเปลี่ยนตัว รมต.

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แม้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ยืนยันว่ายังไม่ได้รับสัญญาณจากนายกฯเรื่องปรับ ครม. และขอยึดเงื่อนไขและโควตาเดิม แต่ยังคงมีความเคลื่อนไหวจากกลุ่ม ส.ส.พรรค ที่ไม่ค่อยพอใจผลงานของรัฐมนตรีบางส่วน อาทิ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ รวมถึงนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ถูกตำหนิว่าช่วงโควิดไม่ได้ช่วย ส.ส.ในพื้นที่เรื่องหน้ากากและเจลแอลกอฮอล์เลย จึงตกเป็นเป้าว่าอาจมีการเปลี่ยน แปลงรัฐมนตรีในส่วนนี้โดยบุคคลที่เป็นแคนดิเดตน่าจับตา อาทิ นายกนก วงศ์ตระหง่าน นายไชยยศ จิระเมธากร นายอัศวิน วิภูศิริ นายวิรัช ร่มเย็น นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รวมถึง น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ที่ได้รับแรงหนุนจากเลขาฯพรรค และกลุ่ม กปปส.

ภท.สงบไม่ต่อรองขอเก้าอี้เพิ่ม

ที่รัฐสภา นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการปรับ ครม. ที่นายกฯประกาศจะดำเนินการให้เสร็จภายในเดือน ส.ค. ว่า ผู้บริหารพรรคได้พูดกันเรียบร้อยแล้วว่าแม้พรรคภูมิใจไทยจะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น 10 คน แต่ จะไม่ต่อรองขอโควตารัฐมนตรีเพิ่ม แต่ถ้ารัฐบาลจะปรับโควตาให้เพิ่มถือเป็นอำนาจนายกฯ ยืนยันพรรคไม่มีการต่อรองขอโควตาเพิ่มทั้งในส่วนรัฐมนตรีและคณะกรรมาธิการ ถ้าไม่ได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนทำงานได้ รัฐมนตรีของพรรคทุกคนทำงานเต็มที่ เมื่อถามว่าการที่พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.เพิ่ม มองว่าควรได้รัฐมนตรีเพิ่มหรือไม่ นายสิริพงศ์ตอบว่า “ผมมองว่ามีเท่านี้ก็โอเคแล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่ม ขอให้พรรคใหญ่ไปแก้ปัญหาในพรรคของตัวเองก่อน ใช้เวลาส่วนมากแก้ปัญหาเพื่อประชาชน ไม่ต้องคำนึงเรื่องการต่อรอง เพราะเป็นการเมืองแบบเก่า ส่วนถ้าจะสลับสับเปลี่ยนกระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่นั้น ต้องมาคุยในรายละเอียด เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค คงต้องดูความถนัดของพรรคด้วยว่าเป็นเรื่องใด ถ้าให้ไปดูกระทรวงกลาโหม คงไม่ถนัด”

“สุวิทย์” อำลา ขรก.อุดมศึกษาฯ

ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีต รมว.อว. เดินทางเข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่มาตั้งแถวต้อนรับ พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ โดยนายสุวิทย์ได้โบกมืออำลาและชูมือเป็นสัญลักษณ์ไอเลิฟยูตอบกลับ พร้อมกล่าวขอบคุณผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยกันทำงานให้กับ อว. และประเทศชาติ ให้ข้อเสนอแนะและกำลังใจมาโดยตลอด หลังจากนี้คงต้องขอพักบทบาททางการเมืองลง แต่ยังไม่ทิ้ง หน้าที่ของการเป็นคนไทยที่สำนึกในคุณแผ่นดิน และไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทใดยืนยันว่าจะร่วมกับประชาชนในการนำพาประเทศชาติให้ก้าวไปข้างหน้า

“สนธิรัตน์” ฟุ้งผลงานเพียบ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า มีนโยบายและโครงการหลายอย่างที่ดำเนินการไว้ อะไรที่คิดว่าดีอยากให้ รมว.พลังงานคนใหม่สานต่อ เพราะวางเอกสารทุกอย่างไว้บนโต๊ะให้แล้ว ส่วนตัวบุคคลที่จะมารับตำแหน่ง รมว.พลังงาน ทั้งนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นั้น ไม่ขอออกความเห็น ขอให้เป็นบุคคลที่เป็นนักบริหารสามารถทำงานได้ทันที ระหว่างเว้นงานการเมืองอาจกลับมาทำบทบาทหน้าที่เดิมเพื่อชุมชน ในมูลนิธิสัมมาชีพต่อไป ส่วนจะกลับเข้าเล่นการเมืองอีกหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังมองไม่เห็นโอกาส ยืนยันว่ากระทรวงพลังงานในยุคตน ได้เปิดประตูไปสู่ประชาชนมากขึ้น ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ตอบโจทย์พลังงานเพื่อทุกคน (Energy For All) และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันประเทศ

ก้าวไกลฝากการบ้านทีม ศก.ใหม่

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาทีมเศรษฐกิจชุดเก่าบริหารเศรษฐกิจในลักษณะแบ่งชนชั้น ธุรกิจระดับบนช่วยหมด แต่ระดับล่างปล่อยให้ดิ้นรนต่อสู้กันไปเอง ได้ข่าวว่ารัฐบาลกำลังมีทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ แม้หัวหน้าทีมจะเป็นคนเดิมแต่ขอฝากให้ทีมใหม่นี้ดูแลปัญหาของคนหาเช้ากินค่ำ และผู้ประกอบการรายย่อยด้วย อย่าทำเฉยปล่อยให้ธุรกิจสีเทาเฟื่องฟูหนี้นอกระบบงอกงาม เพราะเรื่องนี้นอกจากเป็นการท้าทายอำนาจรัฐแล้ว ยังสะท้อนถึงความใส่ใจในชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนด้วย มาตรการที่ออกมาต้องทำให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนในระบบ ไม่ว่าจะเป็นการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือการเข้าไปดูแลหนี้สิน ต่างๆ เพื่อประคับประคองจนกว่าจะผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปได้ ที่ผ่านมาธุรกิจเกรดเอรัฐช่วยไปแล้วตั้งแต่ต้น จนเขาแข็งแรงมากขึ้นแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ควรหันมาดูคนข้างล่างบ้าง

ประกันรายได้ข้าว 1 ก.ย.–พ.ค.64

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 3/2563 ที่มีนายกฯ เป็นประธาน ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ประกันรายได้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในฤดูผลิตที่จะมาถึงนี้ โดยยึดหลักการเดียวกับเมื่อปีที่ผ่านมา คือ ข้าว 5 ชนิด และในเรื่องของวงเงินประกันรายได้จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2563 เป็นต้นไป จนสิ้นฤดูการผลิตประมาณเดือน พ.ค.2564 โดยมติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 กำหนดราคาเป้าหมายและปริมาณต่อครัวเรือนเท่ากับปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยข้าว 5 ชนิด ดังนี้ 1.ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน 2.ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน 3.ข้าวเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน 4.ข้าวหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน 5.ข้าวเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

เตือนอย่าประมาทพลังนิสิต–นศ.

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการนัดชุมนุมของกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) วันที่ 18 ก.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า เป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มนิสิตนักศึกษารอบสอง หลังจากเคยเคลื่อนไหวในลักษณะแฟลชม็อบ ที่จุดติดมาแล้วในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ต้องยุติลงด้วยสถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญ รับฟัง อย่าประมาทพลังของนิสิตนักศึกษา เพราะเป็นกลุ่มพลังที่บริสุทธิ์ และมีความสำคัญทางการเมืองในสังคม ที่เคยมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาแล้ว จากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับฟังความเห็นให้รอบด้าน สภาผู้แทนราษฎรควรมีมติจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อรับฟังความเห็น และการมีส่วนร่วมของนิสิต นักศึกษา โดยเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วม ในการเป็นกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ด้วย

พท.ฉะปฏิรูปคืนสู่เหย้าชาวนกหวีด

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เห็นรายชื่อที่นายกฯลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศชุดต่างๆแล้ว ประชาชนคงได้เห็นถึงเจตนาที่แท้จริงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่า ต้องการส่งสัญญาณอะไร เป็นแท็กติกพื้นๆที่ต้องการเผาเวลา ยืดระยะเวลาการสืบทอดอำนาจออกไปให้ยาวนานที่สุด ประชาชนจำได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จุดพลุความหวังลมๆแล้งๆ หลบหลังคำว่าปฏิรูป ที่ถือว่าเป็นวาทกรรมลวง เพราะไม่เคยมีอยู่จริง โดยเฉพาะคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่มีนายเสรี วงษ์มณฑา เป็นประธานนั้น เป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ของรัฐบาลอย่างดีว่ามุ่งหมายอย่างไร เห็นรายชื่อทั้งหมดแล้วเหมือนรัฐบาลจัดงานคืนสู่เหย้าชาวนกหวีด ให้พรรคพวกได้มีงานทำอีกครั้ง