"บิ๊กแดง" ต้อนรับ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ รูปแบบชีวิตวิถีใหม่ สหรัฐฯ-ไทย ร่วมลงนามแถลงการณ์ Strategic Vision Statement เตรียมพร้อมรับความท้าทาย แห่งศตวรรษที่ 21
วันที่ 10 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ให้การต้อนรับ พล.อ.เจมส์ ซี.แมคคอนวิลล์ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ ใส่หน้ากากผ้า ตรวจอุณหภูมิร่างกาย เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตามมาตรฐานของ ศบค.
โดย ผบ.ทบ.สหรัฐฯ ร่วมพิธีตรวจแถวและลงนามในสมุดเยี่ยม ทบ. พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ ก่อนร่วมพิธีลงนามในแถลงการณ์ Strategic Vision Statement ระหว่างกองทัพบกทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ผบ.ทบ.สหรัฐฯ ได้ตรวจเยี่ยมการฝึก และตรวจสภาพความพร้อมรบของร้อย.ร.ทบ. ไทย ในการฝึก Lightning Forge 2020 (LF20) ณ ค่ายสกอฟิลด์ รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่เช่นกัน
ด้านข่าวประชาสัมพันธ์กองทัพบก ระบุว่า กองบัญชาการกองทัพบก ได้เตรียมความพร้อมในการต้อนรับ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ ตามมาตรฐานของ ศบค. โดยมีมาตรการป้องกัน เมื่อขึ้นรถจะมีฉากกระจกกั้น ระหว่างพลขับของไทยและคณะของผู้ที่มาเยือน มีอุโมงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ มีจุดสแกนตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย มีจุดล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้าหรือ หน้ากากอนามัย มีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อย ทั้งก่อนและหลัง รวมถึงห้องสุขา เว้นระยะห่าง ระยะนั่ง/ยืน กินอาหารร้อน ใช้ช้อนกลางของตนเอง
กองทัพบก ให้ความสำคัญในการต้อนรับแขกผู้มาเยือนต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ แม้ว่าทั่วโลกกำลังประสบภัยเช่นเดียวกัน แต่คณะ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ ถือเป็นคณะแรกที่เดินทางมาเยือน จะเป็นคณะตัวอย่างที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.เจมส์ ซี. แมกกอนวิลล์ ผบ.ทบ.สหรัฐ เข้าพบ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. โดยได้ลงนามในเถลงการณ์วิสัยทัศน์ทางยุทธศาสตร์ (SrategicVision Sateent ) ซึ่งจะขับเคลื่อนและเสริมสร้งความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างกองทัพบกสหรัฐฯ และกองทัพบกไทย ตลอดจนแสดงถึงวิสัยทัศน์ความตั้งใจของ ผบ.ทบ. ทั้งสองประเทศในการสานสัมพันธ์ทางการทหารที่ยาวนาน 65 ปีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นพร้อมก้าวไปสู่อนาคต
ทั้งนี้ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ ยังได้หารือถึงการพัฒนากองทัพให้ทันสมัยความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน การฝึกร่วมและหลักนิยมต่างๆ
พล.อ.แมคคอนวิลล์ กล่าวว่า พันธไมตรีระหว่างเรามีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเกิดผลเป็นอย่างยิ่ง และในเวลานี้เรากำลังรับมือกับความท้าทายในศตวรรษที่ 21 ไปด้วยกัน ประเทศของเรา ทั้งสองจัดการฝึกและกิจกรรมทางการทหารร่วมกันเป็น ประจำหลายร้อยครั้งในแตะละปี และเรากำลังดำเนินการร่วมกับรัฐบาลไทยพื่อให้มั่นใจว่า ทุกการฝึกของราจะเป็นไปด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดใหญ่ครั้งนี้
นอกจากนี้ พล.อ.แมคคอนวิลล์ ยังได้เยี่ยมชมสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (AFRIMS) โดยศูนย์วิจัยโรคติดเชื้อร่วม ระหว่างสหรัฐฯ และไทยแห่งนี้เป็นแนวหน้าด้านการศึกษาโรคระบาดมาหลายทศวรษ นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน และชาวไทยที่ AFRIMS กำลังทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ เพื่อเอาชนะโรคอันตรายลำดับต้นๆ ของโลก เช่น โรคมาลาเรีย ไข้เลือดออก และโควิด-19
ทั้งนี้ การลงนามในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ทางยุทธศาสตร์ ระหว่างกองทัพบกของทั้งสองประเทศ ในครั้งนี้ สืบเนื่อง จากการลงนามในเถลงการณ์วิสัยทัศน์ ร่วมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มาร์กเอสเปอร์ และนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย พล.อ.ประยุทร์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมอาเซียน เมื่อเดือน พ.ย.2562 ที่ผ่านมา