“เทพไท” ค้าน แนวคิด ป.ป.ส. ชี้ เลือกปฏิบัติได้ ลุยปลดล็อก กระท่อม นำ กมธ.ลงพื้นที่ เตือนชาวบ้าน ตอนนี้ยังผิดกฎหมาย เร่งครม.เร่งอนุมัติ ร่างพ.ร.บ.ปลดล็อก พืชกระท่อม 

วันที่ 10 ก.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีการให้สัมภาษณ์ของ นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ป.ป.ส.) เกี่ยวกับการเตรียมการ ในระหว่างที่ ร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ยังไม่มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข หมู่บ้านและชุมชน ได้สำรวจพื้นที่ ในการบริหารจัดการพืชกระท่อมที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ให้สามารถครอบครอง และเสพได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งเตรียมกำหนด135 หมู่บ้าน/ชุมชน ใน 10 อำเภอ 10 จังหวัด เป็นพื้นที่นำร่องในการศึกษารูปแบบการควบคุมพืชกระท่อมผ่านกลไกการควบคุมในชุมชน เพื่อป้องกันการใช้ผิดวัตถุประสงค์นั้นว่า ตนไม่เห็นด้วยกับแนวทางการกำหนดพื้นที่ นำร่องในการปลูกพืชกระท่อมเฉพาะในบางพื้นที่ ซึ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม หรือเลือกปฏิบัติกับผู้ที่บริโภคพืชกระท่อม ในบางกลุ่มบางพื้นที่เท่านั้น ถ้าหากทางหน่วยงานราชการต้องการการปลูกพืชกระท่อมเพื่อการศึกษารูปแบบการควบคุมพืชกระท่อมจริง จะต้องปฏิบัติกับพี่น้องประชาชนผู้บริโภคกระท่อมอย่างเท่าเทียมกัน ก็ควรจะกำหนดพื้นที่นำร่องปลูกพืชกระท่อมในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ เพราะมีการนิยมบริโภคพืชกระท่อมเป็นส่วนใหญ่ การเลือกอนุญาตให้ปลูกได้ใน 10 อำเภอ 10 จังหวัด เป็นการเลือกปฏิบัติจะไม่เป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน ผู้ปลูกพืชกระท่อมทุกคน

นายเทพไทยัง กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ผมเป็นประธานอนุกรรมาธิการปลดล็อกพืชกระท่อม จึงขอเสนอข้อกำหนดท้ายกฎหมายไว้ ดังนี้ คือ

...

1.อนุญาตให้ปลูกพืชกระท่อมได้ 1 ต้น ต่อ 1 ครัวเรือน สำหรับใช้บริโภคเป็นสมุนไพร 2.การปลูกพืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจ ใช้พื้นที่จำนวนมาก ต้องจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน และได้รับอนุญาตจากทางราชการ. 3.การแปรรูปเป็นยาสมุนไพร หรือเครื่องดื่มชูกำลัง จะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 4.อนุญาตให้มีการแปรรูปใบกระท่อมเป็นชนิดผง เช่นเดียวกับใบชา สามารถชงกับน้ำร้อนใช้ดื่มได้ 5.การต้มน้ำกระท่อมผสมสารเสพติด ในลักษณะ 4 × 100 ยังคงเป็นความผิดตามกฎหมาย ต่อไป เพื่อให้พี่น้องประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อม ได้มีส่วนร่วมในการปลดล็อกกระท่อมในครั้งนี้ ด้วย คณะอนุกรรมาธิการปลดล็อกกระท่อม ที่ผมเป็นประธาน จะลงพื้นที่เพื่อ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้บริโภคกระท่อม ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ และชุมพร ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้

"โดยได้ขออนุมัติโครงการจาก ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาปัญหา กัญชา กันชง และพืชกระท่อม อย่างเป็นระบบ ของสภาผู้แทนราษฎร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขอแจ้งข้อมูลข่าวสารต่อพี่น้องประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อม และปลูกต้นกระท่อมว่า ในขณะนี้การบริโภค การครอบครอง และการปลูกพืชกระท่อม ยังมีความผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษปี 2522 ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้ว่า จะมีมติคณะรัฐมนตรีปลดพืชกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 แล้วก็ตาม จึงอยากเรียกร้องมายังคณะรัฐมนตรี ให้รีบมีมติอนุมัติให้ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ฉบับแก้ไขปลดล็อกพืชกระท่อม เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษปี 2522 โดยเร็วที่สุด” นายเทพไท กล่าว