“บิ๊กแดง” ยัน ไร้แนวความคิด ต่ออายุราชการหลังเกษียณ ชี้ เรื่องไร้สาระ ไม่สร้างสรรค์ ลั่น สิ้น ก.ย. ตนมอบธงให้ ผบ.ทบ.คนใหม่แน่ บอก หลังเกษียณอายุราชการ ขอเซตซีโร่ตัวเอง เชื่อ "บิ๊กตู่" ไม่เชิญตน มาช่วยงานแน่
วันที่ 8 ก.ค. ที่หมวดบิน C หน่วยบินเดโชชัย 3 ภายในพื้นที่กองบิน 6 (บน.6 ดอนเมือง) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี กระแสข่าวต่ออายุราชการ โดยได้หัวเราะในลำคอ ก่อนจะตอบว่า จากใจตน และตนถามตัวเองอยู่เสมอ ว่า อย่างแรกเราเป็นทหารอาชีพ และ 2. แนวทางการรับราชการ ถูกกำหนดไว้ชัดเจน ว่า จะต้องเกษียณอายุราชการ บางคนพยายามไปขุดคุ้ยว่า มีอยู่ 2 คน ประสบความสำเร็จในการต่ออายุราชการ ซึ่งไม่ใช่ ดังนั้นอย่าไปสร้างกระแส ในส่วนของตนปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงกลาโหม และระเบียบในการเกษียณอายุราชการ รวมถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกคน พี่จะเกษียณอายุราชการ
"เราก็การคุยกันในการประชุม ผบ.เหล่าทัพ เราก็หารือกันว่า ข่าวพวกนี้ ไม่ใช่ข่าวเชิงสร้างสรรค์ จะทำให้เกิดความขัดแย้ง ผมมองแล้วไม่มีสาระ และไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้นเลย และวันที่ 30 กันยายน 2563 ผมก็ส่งธง ตำแหน่ง ผบ.ทบ. และถือว่าหมดภาระหน้าที่ก็จบภารกิจในการเป็น ผบ.ทบ.” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องต่ออายุราชการ ใช่หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ ได้ย้อนถามว่า มีความจำเป็นอะไร ที่ต้องต่ออายุราชการ เพราะบ้านเมืองก็สงบเรียบร้อย มีเพียงบางกลุ่มเท่านั้นเอง อยากให้เอาความจริงมาสู้กัน อย่าพูดเพียงท่อนเดียวแล้วเอาไปขยายความ ซึ่งตนก็เคยพูดไปแล้ว เรื่องสื่อโซเชียลออนไลน์
เมื่อถามว่า ตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจอะไรหรือไม่ในช่วงใกล้เกษียณอายุราชการ พลเอกอภิรัชต์ กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่มี เพราะในช่วงรับราชการได้ทำทุกสิ่งทุกอย่าง ที่คิดว่าดีที่สุดกับกองทัพ และประเทศชาติ และที่สำคัญการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของคนไทย ก็ต้องเป็นหน้าที่ของคนที่จะต้องมารับหน้าที่ต่อ ที่จะต้องทำหน้าที่นี้สืบสานต่อไปไม่ว่าจะเป็นเหล่าทัพใด
...
ในส่วนของกองทัพบกมีแนวทางและวิธีการปฏิบัติ รวมถึงหลักนิยมในการสื่อสารและการดำเนินการหลายอย่าง โดยในเดือนสิงหาคมตนจะแถลงผลงานในหลายเรื่อง ซึ่งบางคนยังเอามาโจมตีว่า สายตรง ผบ.ทบ. เป็นอย่างไรตนจะสรุปให้ฟังว่า กองทัพบกได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องมานั่งรายงาน เราเป็นองค์กรที่มีระเบียบวินัย เมื่อพูดคำพูดคือนาย เมื่อพูดไปแล้ว ก็ต้องทำ กำลังพลเมื่อได้รับคำสั่งก็ต้องปฏิบัติ ใครผิดต้องลงโทษใครไม่ดี ก็ลงโทษ ย้าย ปลด
ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาทุกอย่างของกองทัพบก มีความคืบหน้าไปมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามทำในโซเชียล และผู้ที่ยังไม่เข้าใจพยายามสร้างความขัดแย้งหรือความแตกแยกพยายามนำมาเป็นประเด็น
เมื่อถามถึงความคืบหน้า การจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหาร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขณะนี้บัญชีโยกย้ายนายทหารอยู่ที่ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) แต่หารือกันในที่ประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในวันนี้ (8 ก.ค.) ยังไม่ได้กำหนดวัน-เวลา ที่จะส่งรายชื่อ แต่เชื่อว่าทุกเหล่าทัพจะมองบุคคลที่มีความเหมาะสมมาทำงานต่อในทุกตำแหน่ง ไม่ใช่เพียงตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพอย่างเดียว เรามีแนวทางอยู่แล้วที่ชัดเจน
เมื่อถามว่า แต่ละเหล่าทัพได้หารือร่วมกันหรือไม่ ว่าแต่ละเหล่าทัพ จะให้ใครขึ้นมา พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ในแต่ละเหล่าทัพ ต้องพิจารณาและเสนอ ซึ่งยังผ่านคณะกรรมการกองทัพไทย ก่อนจัดต้องไปที่กลาโหมสำนักปลัดยังเหลืออีกหลายขั้นตอน เมื่อถามว่า มีการจับตามองท่านหลังเกษียณจะไปทำอะไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขอให้จ้องต่อไป ว่าจะไปทำอะไร
เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.คนใหม่ จะดูแลสถานการณ์ต่อจากนี้ ได้หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่ส ตนจะไปรู้แทนคนที่จะมาเป็น ผบ.ทบ. หรือไม่ ขอให้ไปรอถามในวันที่ 1 ต.ค. ก็แล้วกัน ส่วนสถานการณ์ในอนาคตจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่นั้น ตนยังมองไม่เห็นว่า จะเกิดความวุ่นวายอย่างไร หรือมีอะไร นายกรัฐมนตรี ก็บริหารราชการแผ่นดินด้วยความโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมและที่สำคัญมีความเด็ดขาดในการบริหาร โดยเฉพาะในสถานการณ์ โควิด-19 ซึ่งพวกเราควรชื่นชม ในขณะทั่วทั้งโลกชื่นชมทีมแพทย์ ความมีวินัยของคนไทยในชาติ ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่น
ดังนั้น หากถามตนว่า ข้างหน้าจะเกิดอะไรตนไม่ทราบ เพราะไม่รู้ คือ สถานการณ์ทุกอย่างเป็นลักษณะวันต่อวันและเดือนต่อเดือน ไม่สามารถที่จะไปคาดการณ์ได้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นหรือคนที่จะมาเป็น ผบ.ทบ. จะทำอะไรอย่างไร ตนไม่ทราบ แต่โดยส่วนตัวตนเมื่อจบภารกิจบทบาทตนก็ เซตซีโร่ ตัวเอง
เมื่อถามว่า หากนายกฯ ขอให้มาช่วยงาน พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า นายกฯคงไม่ทำอย่างนั้น และตนคงไม่เข้ามามีบทบาทอะไร และอย่าลืมว่า นายกรัฐมนตรี ปัจจุบันบริหารราชการบ้านเมือง และมาจากการเลือกตั้ง ที่มาโดยรัฐธรรมนูญ การจะเลือกสรรบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาทำงาน คงไม่ใช่ตน