“ส.ส.กุลวลี” พรรค พปชร. เสนอหาแนวทางจัดทำงบประมาณ ที่หน่วยงานหลัก-หน่วยงานท้องถิ่น ทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ล่าช้า เหตุ ปชช.ไม่อาจรอได้


วันที่ 1 ก.ค.63 ในการประชุมสภา นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณประจำปี 2564 วงเงินงบประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท ว่า ขอบ่งชี้ถึงปัญหาการจัดทำงบประมาณฉบับนี้ที่หน่วยงานในหลายๆ กระทรวง หลายๆ กรม ได้ถ่ายโอนภารกิจให้กับท้องถิ่นบริหารจัดการตัวเอง โดยยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ดังนี้ ต.คุ้งกระถิ่น อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ทำการเกษตรปลูกสวนมะพร้าว สภาพพื้นที่ร้อยละ 80 เป็นพื้นที่ที่น้ำทะเลไม่สามารถดันน้ำในแม่น้ำแม่กลอง และคลองแควอ้อ ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำแม่กลอง เข้าสู่คลองลำประโดงตามธรรมชาติเพื่อทำการเกษตรได้ และถึงแม้จะมีโครงการขุดลอกคลองหลายโครงการแล้ว และแม้ว่า จะขุดให้ลึกเพียงใด น้ำก็ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่การเกษตรได้อย่างพอเพียง

"ที่ผ่านมา ชลประทานจังหวัดราชบุรี ได้มีการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบท่อส่งน้ำไว้หลายจุด แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมทั้งตำบล ดิฉันจึงได้ประสานไปยังชลประทานจังหวัดราชบุรี ให้เข้ามาสำรวจ ออกแบบ เพื่อขยายแนวท่อส่งน้ำต่อจากแนวเดิมเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ ต.คุ้งกระถิน และ ต.คุ้งน้ำวน ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ติดกัน ใน อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่มีการปลูกมะพร้าวค่อนข้างเยอะ จึงต้องใช้น้ำค่อนข้างเยอะ แต่ชลประทานจังหวัดราชบุรี บอกว่า ไม่สามารถเข้ามาดำเนินการได้ เนื่องจากโครงการเหล่านี้อยู่ในระหว่างการเตรียมการจะถ่ายโอนให้กับท้องถิ่น" นางสาวกุลวลี กล่าว...

ส.ส.กุลวลี กล่าวว่า เพียงแค่คำว่า เตรียมการจะถ่ายโอนให้กับท้องถิ่น หน่วยงานหลักก็ คือ กรมชลประทาน ไม่สามารถที่จะเข้ามาดำเนินการอะไรให้ได้เลย ส่วน อบต. แม้ว่า จะสามารถตั้งงบประมาณขอเงินอุดหนุนเฉพาะกิจจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้ แต่ก็ไม่มีศักยภาพ ไม่มีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ และเมื่อ อบต.รับโอนแล้ว การปรับปรุง การต่อเติม การบำรุงรักษาก็จะทำได้ยาก เพราะขาดวิศวกรที่มีความชำนาญการ โดยปัญหาในลักษณะนี้เคยมีการพูดคุยในคณะกรรมาธิการสามัญของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจากการร่วมรับฟัง ได้รับการชี้แจงจากตัวแทนคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) ว่า ถ้ามีปัญหาในลักษณะนี้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งโครงการที่มีปัญหาคืนให้กับหน่วยงานต้นสังกัด และเมื่อหน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซม เสร็จเรียบร้อย ก็ให้โอนส่งมอบกลับคืนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเช่นเดิม ซึ่งลักษณะนี้จะทำให้การแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน เกิดความล่าช้า และเชื่อว่าทั้งประเทศ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ประสบปัญหา เช่นนี้ ซึ่งความเดือดร้อนของประชาชน ไม่สามารถรอได้ จึงอยากฝากท่านประธานสภา ผ่านไปยังสำนักงบประมาณ, กระทรวงมหาดไทย, หน่วยงานทุกๆ กระทรวง ทุกๆ กรม และคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) ได้โปรดร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการจัดทำงบประมาณในลักษณะนี้ เพื่อที่ปีต่อๆ ไปจะได้นำเม็ดเงินทุกบาททุกสตางค์ ที่เป็นภาษีของพี่น้องประชาชนมาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องได้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนจริงๆ

...