นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ค่อนข้างพอใจ คนใช้สิทธิ์เลือกตั้งซ่อมลำปาง เขต 4 และมาตรการป้องกันโควิด-19 วันนี้ หลังปิดหีบ พปชร.-เสรีรวมไทย ลุ้นนับคะแนน สูสี

วันที่ 20 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการเลือกตั้งโดยรวมของการเลือกตั้งซ่อมทั้ง เขต 4 จ.ลำปาง ในครั้งนี้คึกคักน้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้มาใช้สิทธิ์มากถึง 77 เปอร์เซ็นต์ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่จะเข้ามาใช้สิทธิ์ในช่วงเช้า เนื่องจากหลายคนต้องไปทำนา ทำสวน และหาเห็ดป่า

ส่วนที่บริเวณศาลาอเนกประสงค์วัดบ้านหล่าย ซึ่งใช้เป็นหน่วยเลือกตั้งที่ 8 และ 9 หมู่ที่ 13 เขตเทศบาลตำบลสบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมด้วยคณะลงพื้นตรวจเยี่ยม พร้อมเปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่หน่วยเลือกตั้งในวันนี้ ส่วนตัวพอใจเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิด 19- ที่ กกต.และจังหวัดลำปาง ได้วางไว้ทั้งการรักษาระยะ การสวมใส่แมสก์ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมถึงมีการวัดไข้ซึ่งหากใครมีไข้เกิน 37.5 องศา ก็จะให้เข้าไปใช้สิทธิ์ในคูหาพิเศษที่เตรียมไว้ ซึ่งจนท.และผู้ที่มาใช้สิทธิ์ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

...

ทั้งนี้ วันนี้มีผู้มีไข้สูงจำนวน 2 รายมาใช้สิทธิ์ที่ในพื้นที่อำเภอเสริมงาม ก็ได้นำตัวเข้าสู่กระบวนการที่วางมาตรการเอาไว้โดยประสานงานกับสาธารณสุข ซึ่งคนแรกมีไข้สูงเนื่องจากเพิ่งผ่าตัดมาใหม่ ส่วนอีกคนเป็นไข้ธรรมดา ตอนนี้ทั้งสองรายก็กลับบ้านแล้ว ส่วนเปอร์เซ็นต์จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งตอนเช้าที่อำเภอเกาะคา มีผู้มาใช้สิทธิ์ประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ และตัวเลขก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ส่วนช่วงบ่ายไปตรวจเยี่ยมที่อำเภอเสริมงาม ตัวเลขของอำเภอเสริมงามก็อยู่ที่ 50-60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่อำเภอสบปราบ พบว่า หลายหน่วยเลือกตั้งมีผู้มาใช้สิทธิ์มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นตัวเลขโดยเฉลี่ยคาดว่า น่าจะเป็นที่น่าพึงพอใจ ทั้งนี้ อยากจะฝากให้ผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งแต่ไม่สามารถมาใช้สิทธิ์ในวันนี้ได้ขอให้ไปแจ้งสาเหตุต่อนายทะเบียนอำเภอนายทะเบียนท้องถิ่นภายใน 7 วัน เพื่อที่จะได้ไม่เสียสิทธิ์หรือถูกจำกัดสิทธิ์ทางการเมือง ทั้งนี้ หลังจากที่มีการปิดหีบจนท.ได้มีการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งแล้ว

ขณะที่ ภายหลังการปิดหีบลงคะแนน เวลา 17.00 น. บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้ง มีประชาชนมาสังเกตการณ์ประปราย เจ้าหน้าที่ได้เริ่มดำเนินการนับคะแนน ซึ่งผู้สมัคร เบอร์ 1 จากพรรคพลังประชารัฐ และเบอร์ 2 จากพรรคเสรีรวมไทย คะแนนค่อนข้างสูสี