“บิ๊กป้อม” ไปสุราษฎร์ธานี ติดตาม-รับฟังปัญหาชาวสวนปาล์ม หลังโดนผลกระทบจากโคโรนาไวรัส สั่งปฏิรูปแบบครบวงจร จับตา “พลังประชารัฐ” ประชุมชุดรักษาการเคาะวันดันเป็นหัวหน้าพรรค เลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. 2563 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานตามมติ กนป. เพื่อรับฟังปัญหาจากผู้ปฏิบัติงาน ตรวจเยี่ยมเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันแปลงตัวอย่าง ตรวจคุณภาพมาตรฐานโรงงานสกัดและโรงงานไบโอดีเซลในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยพบปะเยี่ยมเยียนและมอบถุงปันสุขให้ชาวสวนปาล์ม 2,000 ถุง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 หรือ โคโรนาไวรัส พร้อมเป็นประธานประชุมมอบนโยบายแก่ผู้แทนหน่วยงานส่วนกลางและในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช และพังงา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนเกษตรกร และผู้แทนภาคเอกชนเข้าร่วม
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.22 บาท ถึง 3.09 บาท รัฐบาลได้จ่ายเงินชดเชยประกันรายได้วงเงิน 1,400 ล้านบาทเศษ แต่เนื่องจากมีปาล์มออกสู่ตลาดมากกว่า 3.5 ล้านตัน จึงมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 10,740 ล้านบาท หากไม่ได้รับผลกระทบจากโคโรนาไวรัส คาดว่าการใช้ไบโอดีเซล บี10 เป็นไปตามเป้าหมาย เชื่อว่าราคาปาล์มไม่น่าจะต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท และจากการเป็นประธาน กนป. มากว่า 5 ปีเต็ม รู้ปัญหาหมดทุกด้าน ได้ออกนโยบายและผลักดันมาตรการด้านการผลิต การตลาด และพลังงานครบวงจรแล้ว รวมทั้งวางแผนให้เกิดการปฏิรูปและพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ โดยยึดหลัก “ปาล์มคุณภาพ ราคาที่เป็นธรรม พลักดันไบโอดีเซล ลดมลภาวะ” และในปีนี้เน้นเพิ่มความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบ โดยส่งเสริมไบโอดีเซล บี10 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ดันราคาเฉลี่ยทั้งปีไม่ให้ตำ่กว่ากิโลกรัมละ 4 บาท เพื่อให้ชาวสวนปาล์มมีเงินจับจ่ายใช้สอยและเหลือเก็บไว้เป็นทุน
...
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยึดแนวทางขับเคลื่อนที่ กนป. ได้มีมติเห็นชอบ เป็นหลักในการปฏิบัติอย่างจริงจัง ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยให้พิจารณาตั้งชุดปฏิบัติงานรับผิดชอบงานแต่ละด้านให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในแต่ละท้องที่ และขอกำชับการปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้
1. ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าทีม Single Command บูรณาการสั่งการด้วยตนเอง
2.ให้มีการสร้างการรับรู้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ปลูกฝังการตัดปาล์มที่สุกเต็มที่
3. กวดขันกำกับให้มีการรับซื้อผลปาล์มที่ได้เกณฑ์มาตรฐานสินค้าเกษตร ทะลายปาล์มน้ำมัน ตามราคาที่เป็นไปตามโครงสร้างราคาที่กรมการค้าภายในจัดทำขึ้น
4. กำกับให้โรงงานสกัดปาล์มน้ำมันในพื้นที่ดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม อัตราน้ำมัน 18 เปอร์เซ็นต์
5. กวดขันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มโดยผิดกฎหมาย ในการนี้ ขอให้ใช้มาตรการขอความร่วมมือจากพี่น้องชาวสวนปาล์มน้ำมัน ผู้ประกอบการลานเท โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สภาเกษตรกร ผู้รับจ้างตัดปาล์มในการตัดทะลายปาล์มที่สุกเต็มที่ เจ้าหน้าที่หน่วยเกี่ยวข้องทุกฝ่ายและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ทางด้าน พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนฯ กล่าวว่า นับเป็นการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และขับเคลื่อนภารกิจของ พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธาน กนป. ครั้งที่ 2 ของปี 2563 โดยเป็นการมอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและทีมงานในพื้นที่เกี่ยวข้องนำไปสู่การปฏิบัติ และเป็นการตรวจเยี่ยมกระบวนการปฏิรูปและพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ แบบครบวงจร เพื่อนำไปผลักดันการแก้ไขปัญหาในระดับนโยบายทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ชุดรักษาการ เพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคพลังประชารัฐ เลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยมี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคนำประชุม ขณะที่วานนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมาเปิดเผยว่าเตรียมจะเสนอเลื่อนวันประชุมใหญ่เป็นวันที่ 27 มิ.ย. 2563 เนื่องจากวันที่ 3 ก.ค. ตรงกับช่วงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2564 ขณะที่รายชื่อแคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่ ก็มีเพียง พล.อ.ประวิตร คนเดียว.