นายกรัฐมนตรี ขอบคุณพรรรคร่วมรัฐบาล ช่วยกันทำงานตลอดระยะเวลา 1 ปี ย้ำ ระมัดระวังใช้เงินกู้ตามกรอบกฎหมาย กำชับวันพิจารณา พ.ร.บ.โอนงบประมาณ ขอให้ช่วยกันชี้แจงเพื่อประโยชน์ชาติและประชาชน

วันที่ 2 มิถุนายน 2563 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยขอบคุณคณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันมาตลอดระยะเวลา 1 ปี รวมถึงช่วยกันชี้แจงความจำเป็นและประโยชน์ของ พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 และ พ.ร.ก.อีก 2 ฉบับ ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ที่ประชุมสภาฯ มีมติผ่าน พ.ร.ก. 3 ฉบับดังกล่าว

แต่ทั้งนี้ ขอให้ระมัดระวังการใช้จ่ายงบประมาณจาก พ.ร.ก. การเงินทั้ง 3 ฉบับ ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบ เกิดเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด สำหรับวันที่ 4 มิถุนายน 2563 จะเป็นการชี้แจงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2563 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ทุกคนช่วยกันชี้แจงประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อที่ประชุมสภาฯ เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

...

 
สำหรับเรื่องการศึกษา นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยสั่งการให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปพิจารณาแผนการรับนักศึกษาของสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับจำนวนและความต้องการของตลาดแรงงานด้วย พร้อมกับฝากให้กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาเรื่องการบรรจุบุคลากรทางการแพทย์ที่จะทำเป็น 3 ระยะว่า หากเป็นไปได้ขอให้พิจารณาสัดส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ทุกประเภทในแต่ละรอบที่จะทำการบรรจุให้ครอบคลุมอย่างเหมาะสม

ในส่วนของการดูแลผู้พิการ พล.อ.ประยุทธ์ กำชับให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้บริการอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการเพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสมต่อไป พร้อมกันนี้ ยังสั่งการให้กระทรวงต่างๆ ร่วมกันประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของทุกกระทรวงให้สาธารณชนได้รับรู้อย่างชัดเจน และสั่งการให้สร้างการรับรู้เรื่องของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้ประชาชนเข้าใจ พร้อมกับทำกรณีศึกษาของโรคดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขอให้ช่วยกันระมัดระวังเรื่องของการให้ข่าวที่อาจนำไปสู่การปลุกปั่น สร้างความขัดแย้งในสังคมด้วย.