เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย แสดงความยินดี “บิ๊กตู่” พร้อมชื่นชมควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี เห็นพ้องความร่วมมือหลายด้าน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 พ.ค. 2563 นายแอลลัน เจมส์ มักคินนัน (H.E. Mr. Allan James McKinnon) เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีในโอกาสที่เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยเข้ารับตำแหน่ง พร้อมทั้งชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูต ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย อย่างแข็งขันตลอดมา ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันมีพลวัตมากขึ้น ยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูตฯ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
ทางด้านเอกอัครราชทูต ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าพบ ยืนยันเช่นกันว่าพร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้เอกอัครราชทูตชื่นชมและแสดงความยินดีที่นายกรัฐมนตรีควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้เป็นอย่างดี จากตัวเลขผู้ติดเชื้อถือว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งส่งผลให้ชาวออสเตรเลียในประเทศไทยมั่นใจในระบบสาธารณสุขของไทย

...
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้รัฐบาลออสเตรเลียช่วยดูแลชาวไทยในออสเตรเลีย โดยรัฐบาลไทยขอให้มั่นใจว่าไทยจะช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ชาวออสเตรเลียที่ติดค้างในไทยเช่นกัน โอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการดำเนินมาตรการเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย พล.อ.ประยุทธ์ เห็นว่าไทยและออสเตรเลียควรเพิ่มพูนความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกัน โดยเฉพาะความร่วมมือเรื่องการวิจัยเพื่อการพัฒนาและผลิตวัคซีนในส่วนกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 (COVID-19 ASEAN Response Fund) ออสเตรเลียชื่นชมข้อเสนอของไทย การตอบสนองอย่างรวดเร็วของอาเซียน พร้อมยินดีสนับสนุนกองทุนดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการดูแลแรงงาน และสถานประกอบการร่วมกัน ตลอดจนการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งเห็นพ้องกันว่าควรเตรียมการอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดอีกระลอก
อย่างไรก็ตาม ไทย-ออสเตรเลีย ยังเห็นพ้องยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกันสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การรับมือกับโรคระบาด ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอบคุณออสเตรเลียที่ได้มอบทุนการศึกษาด้านระบาดวิทยาให้แก่นักเรียนนักศึกษาไทยในโอกาสนี้ด้วย.