ที่ประชุม ศบค. หารือแนวทางปฏิบัติลดความแออัด ในสังคม ลุ้นกิจการขนาดใหญ่ คนพลุกพล่าน ได้รับการผ่อนปรนระยะ 2 วันที่ 17 พ.ค.นี้
วันที่ 7 พ.ค. 63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย พร้อมเผยสาระสำคัญของการประชุม ศบค. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า จากมาตรการผ่อนปรนที่ผ่านมา ยังพบความแออัดในขนส่งสาธารณะ ซึ่งที่ประชุม ได้หารือร่วมกัน ถึงแนวทางปฏิบัติ ซึ่งมีข้อเสนแนะดังนี้
- ให้หน่วยงานราชการ เหลื่อมเวลาทำงาน หลายช่วงเวลา เพื่อลดความแออัดในการเดินทาง หรือ ขนส่งมวลชน
- Work from Home หรือ การทำงานที่บ้าน ที่เป็นนโยบายหลัก ที่ต้องทำให้ได้ถึง 50% เพื่อลดการเคลื่อนย้ายคน
- สถานศึกษา ต้องขยายเวลาเปิดเรียนออกไป และใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วยทำการเรียนการสอน
นอกจากนี้ ยังมีการหารือ ดำเนินการมาตรการผ่อนปรนของสถานที่ต่างๆ ที่ประชาชนมีเหตุจำเป็น และได้รับความเดือดร้อน อย่างเช่น การดูแลผู้สูงอายุ แบบนอนค้างคืน แต่แบบไปกลับ อาจจะยังต้องงด เนื่องจากเป็นการเดินทางไปมา อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ อย่างร้านเฟอร์นิเจอร์ ประกันภัย ร้านวัสดุก่อสร้าง ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบในระดับหนึ่ง แต่ต้องดูในข้อกฎหมาย เพื่อพิจารณาเปิดได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของ สมช.
ในส่วนการผ่อนปรนระยะที่ 2 จะเกิดขึ้นเมื่อใดนั้น นพ.ทวีศิลป์ เผยว่า วันที่ 8-12 พ.ค.นี้ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นสำหรับชุดข้อมูล และความคิดเห็นต่างๆ จากนั้น วันที่ 13 พ.ค. จะซักซ้อม วันที่ 14 พ.ค. จะเป็นการยกร่างข้อกำหนดผ่อนปรนระยะที่ 2 นำเสนอต่อนายกฯ และวันที่ 17 พ.ค. ก็จะเข้าสู่การผ่อนปรน ระยะที่ 2 ในกิจการที่มีขนาดใหญ่ และมีคนพลุกพล่าน
...
เมื่อถามว่า ห้างสรรพสินค้า จะได้เปิดทำการกลางเดือน พ.ค.นี้ ด้วยหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ เผยว่า ถ้าดี ได้เปิดแน่นอน เพราะทุกคนก็อยากกลับไปสู่ภาวะปกติ แต่ตอนนี้ก็ต้องเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่บอกไป ซึ่งในแต่ละธุรกิจ ถ้ามีมาตรการที่ดี ไม่ใช่เฉพาะห้างฯ ก็จะได้เปิดเร็วขึ้น แต่ตอนนี้ยังเป็นหลักการอยู่ ซึ่งไม่ได้ขึ้นกับภาครัฐอย่างเดียว แต่ประชาชนต้องร่วมมือกันด้วย ออกกฎมาเพื่อให้ประชาชนร่วมมือ และหากประชาชนไม่ทำตามกฎจะต้องทำอย่างไร ถ้าตามมาตรการ อีก 10 วันข้างหน้า เราอาจจะได้ไปในที่ที่ทุกคนอยากไปอีกหลายที่