ศบค.เผย มติที่ประชุม ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่ 1-31 พ.ค.2563 คุมโควิด-19 คง 4 มาตรเข้ม เคอร์ฟิว ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างสังคม ทำงานที่บ้าน
วันที่ 27 เม.ย. นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ประจำวันที่ 27 เม.ย. 2563 กล่าวถึง การต่ออายุ พ.รก.ฉุกเฉิน 2548 ที่ประชุม ศบค. ในวันนี้ นายกฯ ขอบคุณทุกคนที่ร่วมทำงานทำงานได้ดีมากๆ ตั้งข้อกังวลผลกระทบเศรษฐกิจ ที่ต้องมีการแก้ไขกันต่อไป ยันไม่อยากให้เกิดการระบาดในระลอก 2 การต้ดสินใจต่างๆ ขึ้นอยู่กับตัวเลขผู้ติดเชื้อด้วย
ด้านปลัด สธ. รายงาน แสดงให้เห็นกรณีที่เกิดขึ้นหากมีการติดเชื้ออีก มี 3 กรณี 1.คุมได้ดี 15-30 คนต่อวัน
2.ความเสี่ยงต่ำ อาจเปิดให้ธุรกิจบางที่เปิดดำเนินการได้ 40-70 รายต่อวัน อันนี้ สธ.พอรับไหว
3.ควบคุมยาก ผู้ติดเชื้อพุ่งพรวด 500-2,000 คน อันนี้ควบคุมยาก อาจมีผู้ป่วยพุ่งเกือบ 2 พันราย ตรงนี้ตรวจไปแล้ว 1.7 แสนคน ตรวจแบบเชิงรุกมากขึ้น
ฝ่ายความมั่นคง รายงานว่า ประชาชน ร้อยละ 70 สนับสนุนให้ ขยายระยะเวลาพ.ร.ก.ออกไป ที่ประชุม ศบค. จึงมีมติให้ขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน 1-31 พ.ค. มี 4 มาตรการ ควบคุมห้ามบุคคลออกจากเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ชะลอเคลื่อนย้ายคนในต่างจังหวัด งดดำเนินกิจกรรมคนหมู่มาก ส่วนการผ่อนปรนมาตรการ ยังคงมาตรการทำงานที่บ้าน ร้อยละ 50 ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม มีการวัดอุณหภูมิในสถานที่ทำงาน การล้างมือ มีเจลบริการเพื่อฆ่าชื้อ จำกัดจำนวนคน และมีแอปพลิเคชันติดตามตัว
ภายหลัง ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในไทย ลดเหลือเลขหลักเดียว กทม.วันแรก ไม่พบผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ วันนี้ 9 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 2,931 ราย หายแล้วกลับบ้าน 2,609 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม1 ราย รวมเสียชีวิต 52 ราย
...