ผบ.ทบ. กำชับกองกำลังป้องกันชายแดน ตรวจเข้มช่องทางธรรมชาติ ไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองเสี่ยงแพร่เชื้อ โควิด-19 เน้นย้ำดูแลคนไทยกลับประเทศตามด่านชายแดนเข้าสู่การกักตัวของรัฐ

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 63 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศ มีการรายงานผลการปฏิบัติของกองทัพภาคโดยกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก ในการสนับสนุนมาตรการของรัฐบาลที่อนุญาตให้มีการเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านจุดผ่านแดนถาวร ตั้งแต่ 18 เม.ย. 63 ที่ผ่านมา ซึ่งกองทัพบกจัดกำลังเข้าดูแลพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรทั้ง 21 แห่งทั่วประเทศ โดยระหว่างวันที่ 18-19 เม.ย. 63 มีคนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศตามจุดผ่านแดนถาวรจำนวน 1,228 คน เป็นทั้งผู้ที่เข้าเมืองผ่านระบบลงทะเบียนและไม่ได้ลงทะเบียน ซึ่งกองกำลังป้องกันชายแดนได้ประสานอำนวยความสะดวกและบริหารจัดการร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ทำการคัดกรองและส่งไปยังสถานที่กักตัวตามมาตรการของภาครัฐได้อย่างเรียบร้อย โดยจุดผ่านแดนในพื้นที่ภาคใต้มีคนไทยกลับเข้ามามากที่สุดถึง 987 คน

ทั้งนี้ ผบ.ทบ. ได้ย้ำให้ทุกกองทัพภาคจัดกำลังพลประจำจุดผ่านแดนถาวรร่วมกับตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและจังหวัดในทุกพื้นที่ ให้อำนวยความสะดวกประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมปฏิบัติตามข้อกำหนดของภาครัฐในการผ่านแดนอย่างรัดกุม รอบคอบ มีความเข้มงวดในทุกขั้นตอน รวมถึงมาตรการในการป้องกันตนเอง เนื่องจากในช่วงต่อจากนี้จะมีคนไทยทยอยกลับเข้ามาทางด่านชายแดนอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังให้พิจารณานำเทคโนโลยีระบบการยืนยันตัวบุคคลด้วยเครื่องสแกนใบหน้ามาติดตั้งประจำด่านตรวจเพื่อสะดวกในการบันทึก เชื่อมโยงข้อมูล อันจะเป็นประโยชน์ต่อการคัดกรองและควบคุมโรคในภาพรวม

...

“ผบ.ทบ. ได้สั่งการให้ทุกกองทัพภาคให้ความสำคัญกับการเฝ้าตรวจ การลาดตระเวน ป้องกันมิให้มีการลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงในเรื่องของการแพร่กระจายของเชื้อ เน้นแนวชายแดนทางภาคใต้ทั้งทางทะเลและทางบกตั้งแต่ จ.สตูล จนถึง จ.นราธิวาส โดยเฉพาะตามแม่น้ำสุไหงโก-ลก ให้กองทัพภาคที่ 4 ประสานการปฏิบัติร่วมกับกองทัพเรือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ในการควบคุมและผลักดันเพื่อให้การกลับเข้าประเทศเป็นไปตามมาตรการลงทะเบียน และเข้าสู่ระบบการคัดกรองและควบคุมโรคตามที่รัฐบาลกำหนด”

สำหรับโครงการเปิดโอกาสให้ทหารกองประจำการสมัครใจอยู่รับราชการต่อนั้น รองโฆษกกองทัพบก เผยว่า ปัจจุบันมีจำนวนผู้สมัครเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ยังคงเหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์ ในการตัดสินใจสมัครเป็นทหารต่อ ซึ่ง ผบ.ทบ. ขอให้ผู้บังคับหน่วยใช้ช่วงเวลานี้พูดคุยอธิบายเหตุผลและให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจแก่ทหารกองประจำการ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ สภาพการจ้างงาน และความรับผิดชอบต่อครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่กองทัพบกมีความห่วงใย อยากให้ทหารที่จะปลดประจำการทุกคนมีแนวทางดำเนินชีวิตที่ชัดเจนและตรงกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน.