ศบค. ประกาศใช้ยาแรง เอาผิดตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 152 คนไทย หนีกักตัว จากสนามบินสุวรรณภูมิ ย้ำให้รีบรายงานตัวภายใน 6 โมงเย็นวันนี้
จากกรณี ความวุ่นวายที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทย ของ 5 สายการบิน จำนวน 158 คน หลบหนีการกักตัวตามมาตรการของรัฐบาล 14 วัน
ความคืบหน้า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงมาตรการเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ในการประชุม สมช. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยวยืนยัน 158 ราย ต่อรองไม่ขออยู่ในที่กักตัว ที่รัฐบาลจัดให้ และขอกลับไปยังที่พักอาศัยของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มี 6 คน ที่ยอมกักตัวในที่ที่รัฐบาลจัดให้ ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งหนึ่งใน กทม.
ส่วนคนที่ไม่ยอมกักตัว 152 คน รัฐบาลย้ำว่า จะต้องเรียกตัวทั้งหมดกลับมา รวมไปถึงคนในครอบครัวที่สัมผัสกับบุคคลเหล่านี้ได้ ซึ่งจัดว่าเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยงทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 152 คน แบ่งออกเป็น
- คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ขอให้รายงานตัว ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน สนามบินสุวรรณภูมิ
- คนที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด ให้รายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลาว่าการจังหวัดทุกจังหวัด
ซึ่งทั้ง 152 คน ต้องรายงานตัวภายใน 18.00 น. วันนี้ หากฝ่าฝืน จะถูกดำเนินการทางกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่ง มาตรา 18 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกมาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
...
อย่างไรก็ตาม หากมีการสัมผัสกับบุคคลในครอบครัวแล้ว อยากให้พาคนในครอบครัว มารายงานตัวด้วย เนื่องจาก สธ. จะได้ทำการบันทึกสอบสวนโรค เพื่อติดตาม ดูแลต่อไป และให้กักตัวอยู่ในบ้านพักด้วย 14 วัน
ส่วนคนที่ยังตกค้างอยู่ในสนามบินต่างๆ โดยไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ หลัง สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า กพท. จะประกาศห้ามเครื่องบินทุกประเทศและผู้โดยสารเข้าประเทศไทย 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 6 เม.ย.เวลา 23.59 น. ให้รีบติดต่อสถานทูตในประเทศนั้นๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม สธ. เน้นย้ำเสมอว่า แหล่งที่มาของโรค คือ คนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ.