"บิ๊กป้อม" สั่งทุกหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เร่งช่วยประชาชน ป้องกัน ควบคุม และบรรเทาผลกระทบการระบาดโรคโควิด-19


เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 เมษายน 2563 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ร่วมประชุมผ่านระบบประชุมทางไกลทางจอภาพ (Video conference) ครั้งที่ 1/2563 ณ ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สล.คปต.) เป็นหน่วยดำเนินการ พร้อมด้วย ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ในฐานะกรรมการ คปต. ส่วนหน้า หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมประชุม

ทั้งนี้ ที่ประชุม คปต. รับทราบเรื่องที่สำคัญในเรื่อง 1. สรุปสถานการณ์ด้านการข่าวพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และแนวโน้มสถานการณ์ 2. การขับเคลื่อนแผนบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2562-2565 และ 3. การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการด้านการศึกษาของนักศึกษาไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามมติ คปต. และข้อสั่งการประธาน คปต.ที่ผ่านมาในเรื่อง 1. การจัดระเบียบการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2. การดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบชายแดน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เรื่องที่ 3. การทบทวนและจัดทำแผนเสริมสร้างประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครประจำพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2563-2565 และ (4) แนวทางขับเคลื่อนภารกิจของกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้

ที่ประชุม คปต. ได้พิจารณาเรื่องสำคัญและมีมติเห็นชอบ รวม 5 เรื่องได้แก่ 1. แนวทางการพัฒนามาตรการ ในการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2. การดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแนวทางของภาครัฐต่อองค์การระหว่างประเทศ (IGOs) และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ที่เกี่ยวข้อง กับจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3. โครงการอาชีวศึกษาประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ 4. การดำเนินนโยบาย การบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5. การโอนหรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 2019)

...

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร เน้นย้ำความสำคัญในการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นเครื่องมือดำเนินงานร่วมกันของทุกหน่วยงานและมีกลไกติดตามผลอย่างต่อเนื่อง จึงย้ำผู้บริหารทุกหน่วยงานติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด ซึ่งการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่ต้องเปิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมทั้งองค์กร ภาคประชาชน จึงขอให้เน้นงานสร้างความเข้าใจกับทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูลและป้องกันความสับสนของภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งเน้นย้ำทุกหน่วยงานสนับสนุนการป้องกัน ควบคุม แก้ไขปัญหา และบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 ในพื้นที่ จชต. สมช. ในฐานะ สล.คปต. ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่สนับสนุนความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา จชต. ที่เกิดผลเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และจะเป็นพลังร่วมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนต่อไป.