นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. ชี้ 4 เหตุ น้ำมันลง ของแพงเหมือนเดิม จี้ “บิ๊กตู่” ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลดราคาสินค้าตามราคาน้ำมัน

วันที่ 1 เม.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดได้ประกาศลดราคา มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.ของวันที่ 1 เม.ย.นี้ว่า ทุกครั้งที่มีการประกาศลดราคาน้ำมันทุกคนก็จะดีใจ เพราะราคาน้ำมันเป็นดัชนีชี้วัดปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายด้าน แต่ในวันนี้ เมื่อมีการประกาศลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดของทุกปั๊ม ประชาชนส่วนใหญ่กลับรู้สึกเฉยๆ ไม่ยินดี ยินร้าย กับการลดราคาน้ำมัน เพราะ

1.ราคาน้ำมันได้ปรับราคาในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกคนวิตกกังวล เรื่องการติดเชื้อจากโรคร้ายมากกว่าเรื่องใดๆ 2.ราคาน้ำมันได้ปรับลดราคาลงหลายครั้งในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.63 จนไม่ตื่นเต้นกับราคาน้ำมันที่ลดลงแล้ว

3.ราคาน้ำมันถูกลงก็ไม่มีผล กับการเติมน้ำมันรถยนต์ของตัวเอง เพราะความจำเป็นในการใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันมีน้อยลง หลังจากถูกประกาศล็อกดาวน์ให้อยู่กลับบ้านไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านได้

...

และ 4.แม้ราคาน้ำมันลดลง แต่ค่ารถโดยสารสาธารณะคงเดิม ค่าขนส่งอื่นๆ ก็ไม่ได้ลดลงตามราคาน้ำมัน ราคาสินค้าทุกชนิดก็ราคาแพงเหมือนเดิม ทั้งที่น้ำมัน คือต้นทุนของการผลิตสินค้าทุกชนิด

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันดีเซลที่เคยมีราคาสูงลิตรละ 30 บาท ปัจจุบันราคาลิตรละ 20 บาท ราคาลดลงลิตรละ 10 บาท และมีแน้วโน้มว่าน้ำมันดิบในตลาดโลกจะลดลงมากกว่านี้อีก แต่ยังไม่เห็นสินค้าชนิดไหน ขอปรับลดราคาลงตามราคาน้ำมันเลย ก่อนหน้านี้เมื่อรัฐบาลประกาศปรับราคาน้ำมันสูงขึ้นครั้งใด ผู้ประกอบการรถทัวร์ โรงงานอุตสาหกรรม ก็จะโอดครวญขอขึ้นราคาค่าโดยสาร, ราคาสินค้าโดยอ้างเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ยิ่งตอนนี้สถานการณ์บ้านเมือง มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พี่น้องประชาชนต้องหยุดอยู่กับบ้าน หยุดทำงาน ขาดรายได้ แต่ในขณะเดียวกันราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าขนส่ง ค่ารถโดยสารสาธารณะยังคงเท่าเดิม จึงขอเรียกร้องมายังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ขอให้ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จทางการบริหารตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สั่งการให้กระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ ผลิตสินค้าค่าครองชีพ ค่าโดยสารรถสาธารณะ และค่าขนส่งทั่วไป เช่น กระทรวงการคลัง, กระทรวงพลังงาน, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ ได้แก้ไขปัญหาสินค้าราคาให้ถูกลงสอดคล้องกับราคาน้ำมันในปัจจุบัน และ มอบหมายให้ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ได้รับแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี ให้เป็นประธานคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ และประธานคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 อีกตำแหน่งหนึ่ง นอกจากจะมีหน้าที่ควบคุมการกักตุนสินค้าแล้ว ก็ต้องหามาตรการควบคุม ปรับลดราคาสินค้าให้มีราคาเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้(2เม.ย.) จะได้ยื่นหนังสือต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19ต่อไป” นายเทพไท กล่าว