องค์การอนามัยโลก เตือนให้ระวังป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 จะถึงขั้นอันตรายสูงสุดในเดือนนี้ นั่นหมายถึงผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตจะเพิ่มจำนวนมาก ทุกประเทศจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งแม้ เชื้อโควิด-19 จะไม่ลอยอยู่ในอากาศ แต่ถ้าสัมผัสกับผู้ป่วยโดยการไอหรือจามโดยตรง ก็มีสิทธิ์ติดเชื้อได้

ไม่ว่าจะมีการยืนยันทางการแพทย์ หรือองค์การอนามัยโลก จากข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวมและวิจัยทั่วโลก แต่ความตื่นตระหนกของชาวบ้านสะท้อนจาก การกักตุนสินค้า การแย่งกันซื้อ หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือ แสดงว่าชาวบ้านไม่ฟังใครทั้งสิ้นนอกจากความเชื่อมั่นด้วยตัวเอง ตามข้อมูลที่ได้รับมา

ก็มีชาวบ้านอีกส่วนไม่สนใจว่าโลกใบนี้จะเกิดอะไรขึ้นยังทำตัวตามสบาย ดูอย่างการแจกเงินคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั่นปะไร แห่กันไปเปิดบัญชีธนาคารจนแบงก์ต้องประกาศปิดทำการ นอกจากจะไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำคือให้ยืนอยู่ห่างกัน 1 เมตรแล้ว ยังจะทำให้ธนาคารเป็นแหล่งแพร่เชื้ออีก

พอไปเปิดบัญชีธนาคารไม่ได้เพราะเข้าใจว่าไปเปิดบัญชีธนาคารไว้แล้ว จะมีเงินเข้าบัญชีเดือนละ 5,000 บาท 3 เดือน ก็แห่กันไปลงทะเบียนใช้สิทธิ์รับการช่วยเหลืออีก จนถึงเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 30 มีนาคม มียอดคนลงทะเบียนแล้วเกือบ 19 ล้านคน จากที่รัฐคาดการณ์ว่าจะมี ผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ 3 ล้านกว่าคน ในที่สุดก็จะเกิดปัญหาการเหลื่อมล้ำคนนั้นได้คนนี้ไม่ได้

จะไปโทษชาวบ้านก็ไม่ได้ ต้องโทษรัฐที่ทำอะไรครึ่งๆกลางๆ ไม่มีอะไรชัดเจนแม้แต่อย่างเดียว การบริหารจัดการก็ไม่เป็นระบบพอปิดสถานบันเทิง ปิดร้านอาหาร สถานบริการ สนามกีฬา โดยไม่วางระบบรับมือผลกระทบไว้ก่อนนึกจะปิดก็ปิด ปัญหาเลยตามมาบานตะไท

...

การแพร่ระบาดถึงได้ลามไปต่างจังหวัด ในเวลาอันรวดเร็ว ทีนี้ปัญหาการดำรงชีวิตของชาวบ้านก็ลามไปด้วย เดือดร้อนบุคลากรทางการแพทย์ ในต่างจังหวัด หน้ากากอนามัยขาดแคลนอยู่แล้ว อุปกรณ์ทางการแพทย์ก็ไม่พออยู่แล้ว เดือดร้อนหนัก ครั้นจะรับบริจาคก็ไม่ได้ เนื่องจาก ผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุข จะดุเอา ข้อหาทำให้ภาพลักษณ์ของกระทรวงเสียหาย คราวนี้ หมอเลยป่วยจริงๆ ติดเชื้อจากคนไข้ไปนับสิบคนแล้ว

เรื่องของไข่ไก่ นั้นมีข้อมูลดังนี้ ไข่ไก่ไทย ผลิตได้วันละ 40-41 ล้านฟอง ร้อยละ 98 บริโภคภายในประเทศ ที่เหลือส่งออกเพื่อเป็นการสร้างสมดุลอุปทานตามกลไกตลาด กระทรวงพาณิชย์ รายงาน พบว่าในช่วง 2 เดือนแรกปี 2563 การส่งออกไข่ไก่ลดลง ร้อยละ 51 ราคาส่งออกเฉลี่ยฟองละ 2 บาท ขณะที่ ราคาหน้าฟาร์ม อยู่ที่ฟองละ 2.80 บาท ยังไม่รวมต้นทุนการจัดการ

เวลาเดียวกันเมื่อเรามาเจอกับไวรัสโควิด นักท่องเที่ยวหาย การบริโภคลดลง ไข่ล้นตลาดราคาตกลงมาอีกไข่หน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 2.60 บาท แต่ต้นทุนอยู่ที่ฟองละ 2.69-2.70 บาท เกษตรกรก็ต้องแบกรับภาระอยู่ดี คำถามก็คือว่าแล้วมาถึงช่วงวิกฤติ ไข่ไก่หายไปไหน แล้วทำไมไข่ไก่ที่หน้าร้านถึงราคาแพง แล้วใครบ้างที่ได้ประโยชน์ พาณิชย์ต้องตอบ.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th