นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซฯ ร่ายยาว ขอบคุณทุกกำลังใจ พรรคก้าวไกลเดินหน้าสานต่อนโยบาย แก้ปัญหาประเทศ

วันที่ 15 มี.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขอบคุณทุกกำลังใจ พรรคก้าวไกลเดินหน้าสานต่อนโยบาย แก้ปัญหาประเทศ เราจะทำงานในสภาอย่างแข็งขัน คู่ขนานไปกับความเคลื่อนไหวของพี่น้องประชาชน นำประเทศกลับสู่วิถีทางประชาธิปไตยที่ประชาชนมีอำนาจสูงสุดอีกครั้ง

ขอขอบคุณทุกกำลังใจ พรรคก้าวไกลเดินหน้าสานต่อนโยบาย แก้ปัญหาประเทศ
.
ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณสมาชิกพรรคก้าวไกล เพื่อน ส.ส. พรรคก้าวไกล และผู้สนับสนุนของเราทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจผมให้มายืน ณ จุดนี้ ผมขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ทำให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ กำลังใจจากทุกท่านเป็นเชื้อไฟชั้นดีที่ทำให้พวกเรายังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
.
พรรค ก้าวไกล คือบทที่สองของอนาคตใหม่
พรรคอนาคตใหม่ คือบทแรกของพวกเรา บทแรกที่มีตัวละครคือสมาชิกกว่า 60,000 คน ที่ร่วมกันสร้างพรรคขึ้นมา ที่ผ่านมาพวกเราอาจสุข สนุก และอาจเศร้า ผิดหวัง แต่ที่ผ่านมาคือบทเรียนที่จะพาเราก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงขึ้น
.
วันที่ 14 มีค 63 บันทึกไว้ว่า คือวันที่พวกเราผู้ที่รักความเป็นธรรม เชื่อมั่นในประชาธิปไตยจะเริ่มขีดเขียนการเมืองร่วมกันในบทที่ 2 กับพรรคที่ชื่อ ก้าวไกล

พรรคก้าวไกล คือพรรคที่สืบทอดเจตนารมณ์ อุดมการณ์และจิตวิญญาณมาจากพรรคอนาคตใหม่

...

พรรคก้าวไกล ยังคงเดินหน้าทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์

พรรคก้าวไกล จะยังคงเป็นความหวังให้กับคนที่สิ้นหวังกับประเทศนี้
พรรคก้าวไกล จะยังเป็นปากเป็นเสียงให้กับคนที่ไร้อำนาจในสังคม
พรรคก้าวไกล จะไม่ใช่พรรคชั่วคราว แต่คือสถาบันทางเมืองจะพาประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตย
.
เรายังคงยึดมั่นและต่อสู้เพื่อพาประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตย ยุติระบอบรัฐประหาร และสถาปนานิติรัฐที่ประชาชนทุกคนไม่ว่าจะมาจากไหนต่างก็เสมอหน้ากันต่อหน้ากฎหมาย

เรายังยึดมั่นในนโยบาย 3 ฐานราก 8 เสาหลัก 1 ปักธงประชาธิปไตย เพื่อสร้างประเทศที่ก้าวหน้า และคนไทยเท่าเทียมกัน

ประเทศไทยในวันที่มืดมน
.
ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ พวกเรากำลังเผชิญกับวิกฤติรอบด้าน วิกฤติที่แสดงให้เห็นแล้วว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันไม่มีศักยภาพที่จะนำพาประเทศให้เดินต่อไปได้ ซ้ำยังจะพาคนทั้งชาติลงเหว ประเทศไทยแบบที่เป็นอยู่ คือประเทศที่ความเป็นอยู่ของประชาชนถูกกำหนดโดยเหล่าอภิสิทธิ์ชน ทหาร ข้าราชการ และกลุ่มทุนผูกขาด แม้ประชาชนจะพยายามเปล่งเสียงตะโกนบอกกับผู้มีอำนาจเท่าไร แต่เสียงพวกเขาไม่เคยดังพอที่รัฐบาลจะได้ยิน หรืออาจได้ยินแต่ก็ทำหูทวนลม
.
ทุกท่านครับ สภาพการบริหารงานของรัฐบาลประเทศไทย มีนักรัฐศาสตร์ท่านหนึ่งบอกว่านี่ไม่ใช่สภาพของ “รัฐล้มเหลว (failed state)” แต่นี่คือสภาพ “รัฐบาลล้มเหลว (failed government)”

ภาพที่สะท้อนสิ่งที่ผมกำลังพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติโรคระบาด COVID-19 ที่ตอนนี้ความรุนแรงของการแพร่ระบาด ยังไม่เท่ากับความรุนแรงจากการที่ประชาชนตื่นตระหนกอันเป็นผลมาจากฝีมือการจัดการในยามวิกฤติของรัฐบาล วิกฤติฝุ่นพิษ pm2.5 ที่คนไทยต้องตายผ่อนส่งกันทุกปี เพียงเพราะท่านต้องการเอาใจนายทุน
.
วิกฤติเศรษฐกิจที่ตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ภาคอุตสาหกรรม ภาคท่องเที่ยว ภาคเกษตรติดลบหมด คนตกงานมากขึ้นคนจบใหม่ไม่มีงานทำ หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น คนฆ่าตัวตายหนีพิษเศรษฐกิจถี่ขึ้น

วิกฤติการเมืองก็เกิดจากรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ คสช. ใช้ ส.ว.แต่งตั้ง 250 คน เป็นฐานรักษาอำนาจ แถมออกแบบระบบเลือกตั้งไม่ให้พรรคไหนได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งหรือ 250 ที่นั่ง เพื่อให้พรรค ส.ส. คือพรรคเสียงข้างมาก ส.ส. กระจัดกระจายตามพรรคต่างๆ จนเกิดพรรคร่วมรัฐบาล 19 พรรค บริหารประเทศไร้ประสิทธิภาพขาดเอกภาพสาละวนกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เกิดสภาเสียงปริ่มน้ำ ซื้อตัว ส.ส. ฝ่ายค้าน เกิดองค์กรอิสระที่เลือกปฏิบัติ และเกิดกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน นอกจากนี้ ถ้าอยากแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็ยังแก้ไขไม่ได้โดยง่าย หากปราศจากความร่วมมือจาก ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง
.
สานต่อนโยบายแก้ปัญหาประเทศ
สถานการณ์วิกฤติโควิด 19 ตอนนี้ ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล พวกเราจะพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เราจะไม่เอาภาษีของคนไทยหมู่มากที่กำลังลำบากไปตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แต่เราจะเอาเงินหมื่นล้านบาทสร้างอุตสาหกรรมสุขภาพ สร้างบุคลากร สร้างงาน และเพิ่มงบวิจัย ผมเชื่อว่านักวิทยาศาสตร์การแพทย์ของไทยมีศักยภาพสูงขอเพียงเรามีห้องทดลอง มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย และมีงบประมาณ ถึงเวลานั้นเราอาจจะมีวัคซีน ยาต้านที่สามารถป้องกันไวรัสที่เกิดใหม่ในอนาคตได้

ถ้าอุตสาหกรรมนี้เกิดขึ้น ผลลัพธ์ที่ประเทศไทยจะได้ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจที่เราจะมีลูกค้าหลายล้านคนจากทั่วโลก แต่เรายังเป็นความหวังของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่พวกเขาต่างรอคอยให้คนที่เขารักหายจากการเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งนั้นยังจะช่วยยกระดับสถานะของประเทศไทยในเวทีโลกด้วย
.
วิกฤติเหล่านี้คือเหตุผลว่าทำไมเรายังต้องเดินตามแนวนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ที่หาเสียงไว้กับประชาชนก่อนเลือกตั้ง คือการแก้ไขปัญหาที่โครงสร้าง มากกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ผิดจุด

แน่นอนเรายังเดินหน้า ดันร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. 17 ฉบับ เพื่อยุติมรดกกฎหมายยุครัฐประหารที่ยังคงลิดรอนสิทธิของประชาชน
.
เรายังเดินหน้า ดัน ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย ทหารมีสวัสดิการที่ดี และทหารชั้นผู้น้อยอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี
.
เรายังเดินหน้า ดัน ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน เพื่อยกระดับสิทธิและสวัสดิการของแรงงาน ซึ่งผมต้องยกเครดิตการผลักดัน พ.ร.บ. นี้ให้กับ ส.ส. ปีกแรงงานของพรรค
.
เรายังเดินหน้า ดันร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ซึ่งจะเป็นหมุดหมายสำคัญในการปลดล็อกธุรกิจน้ำเมาหลายแสนล้าน จากนายทุนเพียงไม่กี่ราย ให้ผลประโยชน์ไปตกกับผู้ประกอบการรายย่อยและท้องถิ่นอย่างแท้จริง ซึ่งตัวร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือแค่ยื่นร่างเข้าสู่การพิจารณาของสภา
.
และเรายังคงจะเดินหน้าวาระอื่นๆ เพื่อผลักให้สังคมออกจากวิกฤติให้ได้ เช่น ร่างกฎหมายอากาศสะอาด หรือการยุติระบบราชการรวมศูนย์
สุดท้ายเราต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจัดความสัมพันธ์ทางอำนาจใหม่ ให้ประชาชนมีอำนาจต่อรองมีสิทธิเสรีภาพมากขึ้น ให้สถาบันการเมืองจากการเลือกตั้งมีอำนาจเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน เราต้องยกเลิก ส.ว.แต่งตั้ง ยกเลิกยุทธศาสตร์ 20 ปี และแก้ที่มาองค์กรอิสระให้มีความยึดโยงกับประชาชน
ทำหน้าที่ในสภาคู่ขนานประชาชน
.
สถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนแค่การเปลี่ยนแปลงในสภาอาจช้าเกินไป และหากคิดจะเปลี่ยนผ่านสภาผู้มีอำนาจก็พยายามกัดกร่อนให้สภาอ่อนแอเป็นแค่ตรายางให้รัฐบาลเท่านั้น เพราะเวลาหลังเลือกตั้งไม่ถึงปีพรรคพวกเราที่ควรจะมี ส.ส. 88 คน ตอนนี้เหลือ 50 กว่าคน จากสภาเสียงปริ่มน้ำ การเป็นสภางูเห่าสร้างความมั่นคงให้รัฐบาล
.
ในความมืดมิดก็ยังมีแสงสว่าง ท่ามกลางวิกฤตของประเทศที่รุมเร้าประเทศ พวกเราก็เห็นการลุกขึ้นต่อสู้ของเยาวชนในสถานศึกษาต่าง ๆ มากกว่า 40 แห่ง นักเรียน นิสิต นักศึกษาทุกระดับ ต่างออกมาทำการรณรงค์เคลื่อนไหวเพื่อส่งเสียงไปถึงเหล่าผู้มีอำนาจว่า พวกเขาต้องการประเทศที่ดีกว่านี้ พวกเขาต้องการประเทศที่เป็นธรรมกว่านี้ พวกเขาต้องการประเทศไทยที่มีอนาคตมากกว่านี้
.
แม้ความหวังดีของพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับการขัดขวาง กดดัน และข่มขู่คุกคามจากผู้ใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังคงยืนหยัดลุกขึ้นต่อสู้ท่ามกลางความมืดมิดที่ปกคลุมในประเทศนี้
.
ทุกท่านครับ พวกเราก็กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย นี่คือโอกาสที่การเมืองไทยจะเขยื้อนไปในทางที่ดีขึ้น เพราะพลังจากนักศึกษาทั่วประเทศที่กำลังลุกขึ้นทวงสิทธิความเป็นเจ้าของประเทศของพวกเขา พวกเราเห็นประกายไฟแห่งความหวังถูกปลุกขึ้นในกลุ่มคนที่จะเป็นอนาคตของประเทศนี้
.
ประกายไฟแห่งความหวังที่เกิดขึ้นเป็นไฟจุดให้พวกเรา ส.ส. พรรคก้าวไกล ต้องก้าวต่อไป ภารกิจของพวกเราคือการยืนหยัดในรัฐสภาเพื่อเป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงสังคมไปข้างหน้า เพื่อทำให้ประเทศนี้ก้าวไปได้ไกลกว่าที่เป็น และเพื่อรอวันที่ความหวังและอนาคตจะกลับสู่การเมืองไทยอีกครั้ง
.
แน่นอนพวกเราพรรคก้าวไกล จะทำงานในสภาอย่างแข็งขัน คู่ขนานไปกับความเคลื่อนไหวของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักศึกษา เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน พ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการ และข้าราชการ เพื่อร่วมกันในการนำพวกเราออกจากวิกฤติ และนำประเทศกลับสู่วิถีทางประชาธิปไตยที่ประชาชนมีอำนาจสูงสุดอีกครั้ง