มาตรการรับมือไวรัสของรัฐบาลเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก จนชาวบ้านสับสนมึนเค

แรกเริ่มเดิมที รัฐบาลลุงตู่สั่งจัดตั้งศูนย์กักกัน คนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้ชัวร์ 14 วัน ก่อนปล่อยตัวกลับภูมิลำเนา

ปรากฏว่าหลังจากเปิดศูนย์กักตัวได้ 3 วัน นายกฯลุงตู่มีคำสั่งด่วนให้ปิดศูนย์กักตัวทุกแห่งทันที

เปลี่ยนแผนใหม่ให้ผู้ที่ถูกกักตัวเกือบ 500 คน กลับไปกักตัวเองที่บ้านจนครบ 14 วัน

ถามว่า...เหตุใดรัฐบาลเกิดเปลี่ยนใจปุบปับฉับพลัน??

ตอบว่า...เพราะรัฐบาลเพิ่งคิดได้ภายหลังว่าการเปิดศูนย์กักตัวเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

“แม่ลูกจันทร์” ย้อนไปถึงเหตุผลที่ นายกฯลุงตู่ สั่งจัดตั้งศูนย์กักตัวคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้ไปอยู่รวมกัน

เพื่อป้องกันไม่ให้ออกไปเพ่นพ่านแพร่เชื้อไวรัสไปติดคนอื่นทั่วบ้านทั่วเมือง

ส่วนเหตุผลที่ นายกฯลุงตู่ เกิดเปลี่ยนใจสั่งปิดศูนย์กักตัวคนไทยหลังเปิดศูนย์ได้แค่ 3 วัน

เพราะการเอาคนจำนวนมากที่กลับจากประเทศเขตโรคติดต่ออันตรายให้ไปกินนอนรวมกันในที่แห่งเดียว 14 วัน

หากมีคนที่ติดเชื้อไวรัสมาจากต้นทางเพียงคนเดียวสามารถแพร่กระจายไวรัสไปติดต่อคนอื่นๆอีกร้อยคน หรืออีกหลายร้อยคน

แทนที่ศูนย์กักตัวจะเป็นศูนย์ป้องกัน ดันกลายเป็นศูนย์แพร่กระจายไวรัสเสียเอง

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าเมื่อศูนย์กักตัวถูกยกเลิกไป ผู้ที่ถูกกักตัวอยู่ในศูนย์ก็ถูกส่งกลับภูมิลำเนาไปกักตัวเองบ้านใครบ้านมันจนครบ 14 วันตามกติกา

ห้ามออกนอกเขตบ้านตลอด 24 ชั่วโมง

ใครที่กลับถึงบ้านแล้วเป็นไข้ไอจาม ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่รับตัวไปสังเกตอาการที่โรงพยาบาลทันที

...

ปัญหาคือ...ในช่วง 3 วันที่ถูกกักตัวอยู่รวมกัน มีการแพร่เชื้อไวรัสหรือไม่? และมีคนได้รับเชื้อไวรัสไปแล้วกี่คน??

เพราะไวรัสโควิด-19 เป็นไวรัสเกิดง่ายตายช้า สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้อย่างรวดเร็ว

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ ตม.สนามบินสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระผู้โดยสารที่สนามบิน ต้องเป็นเหยื่อรับเชื้อไวรัสไปอีก
2 ราย

แม้สวมหน้ากากอนามัย สวมถุงมือป้องกันก็ไม่สามารถป้องกันไวรัสมหาภัยได้ 100 เปอร์เซ็นต์

แค่สัมผัสเชื้อไวรัสที่ติดอยู่บนเล่มพาสปอร์ต หรือสัมผัสไวรัสที่ติดอยู่กับสัมภาระผู้เดินทางผ่านสนามบินก็ไม่ปลอดภัย

ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันไดเลื่อน ลูกบิดประตู ฯลฯ เป็นจุดพึงระวัง

แม้แต่ธนบัตรที่ผ่านมือคนใช้ไม่รู้กี่คน หากมีไวรัสติดอยู่ก็แพร่เชื้อได้เช่นกัน

ข้อมูลแบงก์ชาติระบุว่า เชื้อไวรัสตัวนี้หากติดบนผิวธนบัตรที่เป็นกระดาษจะมีชีวิตถึง 5 วัน

ถ้าเป็นธนบัตรพลาสติกจะมีชีวิตได้ถึง 9 วัน

ฉะนั้น เพื่อป้องกันไวรัสแพร่กระจาย แบงก์ชาติจะนำธนบัตรที่หมุนกลับมาไปพักไว้ 14 วัน ก่อนปล่อยกลับมาหมุนเวียนต่อไป

ท่านที่หยิบจับแบงก์ร้อยแบงก์พัน ควรล้างมือทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยนะคุณโยม.


“แม่ลูกจันทร์”