“เสรีพิศุทธ์” ชี้ กรณีคนใกล้ชิดรัฐมนตรีกักตุนหน้ากากอนามัย “บิ๊กตู่” ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วย ซ้ำบริหารจัดการไม่ได้ เผย กรรมาธิการ ป.ป.ช. พร้อมลุยตรวจสอบ จี้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน
วันที่ 10 มี.ค. 2563 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กถึงกรณีบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ใกล้ชิดกับรัฐมนตรีในรัฐบาลไปร่วมกระบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยเพื่อนำไปจำหน่ายในราคาแพง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ประชาชนคนไทยกำลังขาดหน้ากากไว้ใส่ป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบเช่นเดียวกัน เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถบริหารจัดการเรื่องหน้ากากอนามัยให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น แพทย์ พยาบาล บุคลากรด้านสาธารณสุข หรือกลุ่มคนที่ทำงานให้บริการด้านสาธารณะ
ทั้งนี้ จากการที่ได้ติดตามข้อมูลในเบื้องต้นพบว่ามีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นเป็นการกระทำความผิดเพียง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ยังไม่มีการตรวจสอบลงลึกไปถึงกระบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยที่เชื่อมโยงไปถึงคนที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน โดยเฉพาะบุคคลใกล้ชิดกับรัฐมนตรีในรัฐบาล ดูเหมือนว่าอาจจะมีการพยายามช่วยเหลือปกปิดข้อเท็จจริงในบางเรื่องหรือไม่ ที่สำคัญ ทำไมถึงไม่ตรวจสอบบัญชีธนาคารเพราะจะเห็นเส้นทางการเงินที่ชัดเจน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ตรวจสอบได้ไม่ยาก แม้ดูเหมือนว่าจะมีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นและทำลายพยานหลักฐานก็ตาม
...
“ทั้งหมดนี้จึงเป็นประเด็นที่ทางคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. จะเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้ได้คำตอบว่า หน้ากากอนามัยหายไปไหน ใครเกี่ยวข้องกับการกักตุน และนี่ไม่ถือว่าเป็นการกักตุนสินค้าธรรมดา แต่มันคือการกักตุนสินค้าซึ่งเป็นเครื่องมือป้องกันชีวิตคนไทยจากเชื้อไวรัส ท่านนายกฯ จะทำเป็นเรื่องล้อเล่น ปล่อยให้คนกักตุนลอยนวลไปเฉยๆ ไม่ได้”.