“อนุพงษ์” สั่งการผู้ว่าฯ ต้องเข้มตรวจคัดกรอง เน้นเป็นพิเศษ “ผีน้อย” มาจาก 2 เมืองโควิด-19 ระบาดหนักของเกาหลีใต้ ยัน ต้องกักในที่ควบคุมของรัฐบาล
วันที่ 5 มี.ค. 2563 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นัดประชุมด่วนผู้ว่าราชการจังหวัดผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 และนโยบายรับมือการเดินทางกลับของแรงงานไทยที่เข้าเมืองผิดกฎหมายในเกาหลีใต้
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอเน้นย้ำผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ต้องตรวจคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าออกประเทศไทยทุกช่องทาง หากใครอยู่ในข่ายเฝ้าระวังต้องแยกออกไป ส่วนคนที่มาจากเกาหลีใต้ โดยเฉพาะจากเมืองแทกู และคยองซัง จะต้องเข้าพื้นที่ควบคุมของรัฐบาล สำหรับบุคคลที่กลับมาจากประเทศอื่นหากผ่านการคัดกรองแล้วจะต้องกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน พร้อมกันนี้ กระทรวงมหาดไทย ยังร่วมกับหน่วยทหารในการจัดหาพื้นที่กักกันตัวกลุ่มผีน้อย โดยจังหวัดใดที่มีกลุ่มผีน้อยกระจายตัวไปตามอำเภอต่างๆ ให้นายอำเภอเป็นผู้พิจารณาหาพื้นที่ควบคุม โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ในเขตพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 3 คือ จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ที่มีจำนวนแรงงานผิดกฎหมายเดินทางกลับจากเกาหลีใต้จำนวนมาก ให้พิจารณาคุมเข้มเป็นพิเศษ
อีกทั้งในขณะนี้ประชาชนมีความต้องการหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งกำลังการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 30,000,000 ชิ้นต่อเดือน จำนวนหนึ่งบุคลากรทางการแพทย์ใช้ไป 10,000,000 ชิ้น เหลือ 20,000,000 ชิ้นต่อเดือน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเพียงพอกับประชาชน จึงอยากให้ประชาชนพิจารณาการใช้อย่างจำเป็น พร้อมเสนอหน้ากากทางเลือก (หน้ากากผ้า) ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ที่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของคนที่ป่วยไม่ให้มีการแพร่เชื้อได้
...
ทางด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาแพง ว่า ได้ร่วมกับพาณิชย์จังหวัด ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ออกไปตรวจตราป้องกันเรื่องการกักตุนและการจำหน่ายเกินราคา เนื่องจากขณะนี้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งการส่งออกและการกักตุนต้องมีการแจ้งต่อพาณิชย์จังหวัด หากพบใครขายเกินราคาจะมีความผิดทางกฎหมาย หากใครพบเห็นสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 พร้อมกันนี้จะมีการจัดรถโมบายออกไปจำหน่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนตามชุมชนต่างๆ ด้วย
ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกลุ่มโอทอปที่รวมตัวในการผลิตหน้ากากแบบผ้า มีกำลังการผลิตต่อสัปดาห์จำนวน 279,609 ชิ้น ถือว่าเป็นการช่วยแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน แต่อย่างไรก็ตาม ได้เกิดปัญหาราคาผ้าที่ปรับตัวสูงขึ้น เพราะมีความต้องการมากขึ้น.