อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ขอประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ ย้ำ คนกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงห้ามปิดบัง

วันที่ 3 มี.ค. 2563 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) ว่า ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 11 ราย กลับบ้านแล้ว 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 43 ราย ส่วนผู้ป่วยอาการหนักคงที่ 1 ราย

พร้อมขอความร่วมมือประชาชนชะลอไม่ให้ประเทศไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดในวงกว้าง ซึ่งไวรัสโควิด-19 ป้องกันได้ด้วยการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ สวมใส่หน้ากากอนามัย ขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือสู้ไปด้วยกัน รับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมด้วยการป้องกันตัวเองและการติดเชื้อ และไม่เพิ่มโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่น หากตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยง พร้อมตั้งสติรับรู้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้และนำไปปรับใช้ และสู้ไปด้วยกันเป็นปัญหาของทุกคน ต้องร่วมมือร่วมใจกัน ไม่โทษใคร เพราะโรคไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเรื่องของทุกคน

...

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศให้เชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเชื้อโรคที่ต้องควบคุมตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.เชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ.2558 กำหนดให้เป็นเชื้อโรคควบคุมในกลุ่มที่ 3 หากผู้ใดต้องการนำไปทำวิจัยพัฒนา ต้องขออนุญาตเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.เชื้อโรค ส่วนคำแนะนำสำหรับประชาชน เป็นดังนี้

1. ประชาชนที่มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่ที่มีการรายงานพบผู้ป่วย หลังเดินทางกลับประเทศไทยภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ เจ็บคอ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น น้ำมูก ไอ เสมหะ หายใจเร็ว หอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

2. ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศที่มีการระบาด และหากจำเป็นต้องเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาด ขอให้หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย หลีกเลี่ยงไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย

3. ประชาชนทั่วไป ขอให้ดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศแปรปรวน ใช้มาตรการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากป้องกันโรค เวลาไอ จาม หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ.