ในที่สุด รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ผ่านพ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านไปได้ สิ่งที่ปรากฏตามมาคือรูปแบบของการเมืองการปกครอง เกิดการปรองดอง อย่างมีเงื่อนงำ
ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวละครที่ถูกอภิปราย คาดว่าจะหนักที่สุด นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ยังมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ที่จะว่ากันตามจริงแล้ว พฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ และ ร.อ.ธรรมนัส เป็นที่ทราบกันดีตามหน้าสื่อทุกวันอยู่แล้ว
ช็อตเด็ดน่าจะอยู่ที่ พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประวิตรมากกว่า
กลับไม่ถูกอภิปราย ซึ่งถ้าฝ่ายค้านต้องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจริงๆ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเว้นวรรคหรือดึงเรื่องการอภิปรายของบุคคลทั้งสอง เนื่องจากตามข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ จะนำมาแสดงแรงกว่าเรื่อง ไอโอ ของกองทัพ เรื่องของ กอ.รมน. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ กำกับดูแลหลายเท่า
มาถึงคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าดูจากวิถีการเมือง พอจะประเมินได้ว่า กำลังมีการโดดเดี่ยว คณะอนาคตใหม่ การยุบพรรคอนาคตใหม่ที่ผ่านมา ถ้าคิดแบบตื้นๆ สกัดดาวรุ่ง จะเป็นข้อได้เปรียบของพรรค การเมืองทุกพรรค เพราะแนวโน้มว่าอนาคตใหม่จะเป็นพรรคดาวรุ่ง เป็นอันตรายกับพรรคการเมืองเก่าแก่โดยตรง จากอุดมการณ์และความคิดของคนรุ่นใหม่ ทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างปริมาณกับคุณภาพที่ชัดเจน
แต่ลืมไปว่า คณะอนาคตใหม่ ไม่ได้มีแค่ พรรคอนาคตใหม่ แต่มี คนรุ่นใหม่ ที่เห็นด้วยกับแนวทางการเมืองของอนาคตใหม่ ในการที่จะนำประเทศไทย แหวกวงล้อมเดิม ผลประโยชน์แบบเดิมๆ อำนาจแบบเดิมๆ
...
ประชาธิปไตยแบบเดิมๆ
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพรรคฝ่ายค้านไม่ว่าจะเป็น เพื่อไทย เสรีรวมไทย ต่ออุดมการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนไป หนักหนาสาหัสพอสมควร รวมทั้งพรรคการเมืองดั้งเดิม อย่าง ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา ท่าดีทีเหลว
ในอนาคตพรรคการเมืองเหล่านี้ อาจมีการฮั้วกันในรูปแบบใดก็ตามหรือท้ายที่สุดจะเป็นรัฐบาลผสมแบบเดียวกับรัฐบาลอัมโน ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ระบอบประชาธิปไตยสมบูรณ์
จะกลายเป็นเผด็จการเสียงข้างมากที่สมบูรณ์ด้วยซ้ำ
ขั้วอำนาจทางการเมือง กลายเป็น คณะอนาคตใหม่ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ กับพรรคฮั้วแห่งชาติ การต่อสู้ทางการเมืองเที่ยวนี้ จะแบ่งเป็นชนชั้น รุ่นระดับ เพิ่มดีกรีความขัดแย้งแรงกว่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ชาติไทย
ไม่ใช่เรื่องของซ้ายจัดดัดจริตหรือขวาตกขอบ แต่เป็นเรื่องของผลประโยชน์และความอยู่รอดทางการเมืองที่จะถึงยุคของการเปลี่ยนแปลงระหว่างคนสองรุ่น สองยุค อย่าไปเอาเรื่องความรักชาติ ชังชาติมาปลุกระดม
บ้านเมืองจะหายนะ.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th