เมื่อแพแตก ผู้คนบนเรือก็คงต้องแยกย้าย หลายคนยืนหยัดในอุดมการณ์ หลายคนนั่งคิดนอนคิด จนตัดสินใจได้ว่า เอาล่ะ! เราต้องหันไปซบฟากรัฐบาล โดยล่าสุด กองเชียร์พรรคส้มถึงกับหัวเสีย เพราะมี ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 9 คน ตัดสินใจหันเหไปเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทยเป็นที่เรียบร้อย
ข่าวร้ายของกองเชียร์พรรคส้มยังไม่จบเท่านี้ เพราะจะมีอีกอย่างน้อย 6 คน รวมเป็น 15 คน ที่จะย้ายเข้าไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ดังนั้น ส.ส.ที่เคยสังกัดพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 65 คน จะเหลือไม่ถึง 40 คน ที่จะย้ายไปสังกัดพรรค ที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นผู้นำคนใหม่
ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ พาไปดูเส้นทางชีวิต และผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่พลิกชะตาชีวิตของบุคคลทั้ง 9 นี้ไปตลอดกาล....
1. นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 23 จอมทอง, ธนบุรี (เฉพาะแขวงดาวคะนอง แขวงบุคคโล และแขวงสำเหร่) อดีตพรรคอนาคตใหม่
...
ชนะไปด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง 27,651 คะแนน ส่วนอันดับสองเป็นพรรคพลังประชารัฐ ได้ไป 26,015 คะแนน
ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่เรียกขานว่า ส.ส.อ๋า เขาเกิดวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2511 โดยอาชีพก่อนได้รับเลือกตั้ง คือ นักธุรกิจ
ประสบการณ์ที่ผ่านมา
- อดีตสมาชิกสภาเขตกรุงเทพฯ ปี พ.ศ. 2541 - 2545 - อดีตผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพฯ ปี พ.ศ. 2545
การศึกษา - นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารรัฐกิจและกฎหมาย) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
นายโชติพิพัฒน์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 23 เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ว่า “ผมเป็นคนเปิดเผย และผมจะบอกว่า ผมย้ายมาพรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้วครับ ผมไม่ใช่งูเห่า เพราะการยุบพรรคเปรียบเสมือนการล้างไพ่ ส.ส.ในพรรคที่ถูกยุบ สามารถตัดสินใจย้ายไปพรรคใดก็ได้ ซึ่งขอยืนยันว่า การตัดสินใจของผม ไม่มีเรื่องเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง”
“ผมยืนยันว่า ผมเป็นคนทำงานในพื้นที่มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของพรรคอนาคตใหม่ หากจะให้ผมย้ายไปอยู่พรรคใหม่ที่มีคุณทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวเรือ ผมก็ไปไม่ได้ เพราะโดยส่วนตัวระหว่างผมกับเขาไม่ถูกกันครับ แต่ถ้าพรรคอนาคตใหม่ไม่ถูกยุบ อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล ยังอยู่ ผมก็ไม่มีวันย้ายออก เพราะ อ.ปิยบุตร แกดีกับผม ผมไปหักหลังเขาไม่ได้” นายโชติพิพัฒน์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 23
2. ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 20 สวนหลวง, ประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน และแขวงดอกไม้) อดีตพรรคอนาคตใหม่
ชนะไปด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง 40,483 คะแนน ส่วนอันดับสองเป็นพรรคพลังประชารัฐ ได้ไป 29,557 คะแนน
ร.ต.ต.มณฑล เกิดวันที่ 4 มีนาคม 2497 จบการศึกษาจากรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมีอาชีพก่อนได้รับเลือกตั้ง คือ ข้าราชการบำนาญ
ประสบการณ์ที่ผ่านมา
- วิทยากรฝึกอบรม ให้ความรู้กับเยาวชน และพี่น้องประชาชน
- วิทยากรยาเสพติดเชิงรุกเพื่อการรณรงค์แบบเคลื่อนที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรุงเทพมหานคร
ร.ต.ต.มณฑล ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 20 เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ว่า “ผมชัดเจน ผมย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ ส.ส. พึงกระทำได้ หลังพรรคเดิมถูกยุบ และสำหรับตัวผม ผมถือว่า ผมเป็น ส.ส.ที่มีคะแนนเสียงมากที่สุดในเขตกรุงเทพฯ เพราะที่ผ่านมา 15 ปี ผมทุ่มเททำงานให้กับส่วนรวมมาโดยตลอด”
“ส่วนสาเหตุในการตัดสินใจย้ายพรรคนั้น ยอมรับว่า เป็นการตัดสินในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 10 นาที หลังจากที่พวกเราโดนกระทำจากเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ให้ความสำคัญ จนทำให้พวกเราต้องเดินออกมา แต่อย่างไรก็ตาม ผมยังคงชื่นชมและนับถือในตัวของคุณธนาธร อ.ปิยบุตร และคุณช่ออยู่เสมอ” ร.ต.ต.มณฑล ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 20 กล่าว
3. นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. เขต 21 บางนา, พระโขนง อดีตพรรคอนาคตใหม่
ชนะไปด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง 35,702 คะแนน ส่วนอันดับสองเป็นพรรคพลังประชารัฐ ได้ไป 28,994 คะแนน
นายสมเกียรติ เกิดวันที่ 24 พฤศจิกายน 2522 จบการศึกษาจากบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยมีอาชีพก่อนได้รับเลือกตั้ง คือ พนักงาน บริษัทเอกชน ตำแหน่ง Account Manager
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยัง นายสมเกียรติ เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด ซึ่งล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายนายสมเกียรติ เป็นหนึ่งในรายชื่อที่สมัครเข้าพรรคภูมิใจไทย โดยนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
4. นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1 อดีตพรรคอนาคตใหม่
ชนะไปด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง 72,016 คะแนน ส่วนอันดับสองเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ได้ไป 38,035 คะแนน
นายเอกการ เกิดวันที่ 29 มิถุนายน 2528 โดยมีอาชีพก่อนได้รับเลือกตั้ง คือ ค้าขาย และในอดีตเคยลงสมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเเพร่ ปี 2555
การศึกษา
- วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (Construction/structural Engineering) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (Mba) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยัง นายเอกการ เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด ซึ่งล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายเอกการ เป็นหนึ่งในรายชื่อที่สมัครเข้าพรรคภูมิใจไทย โดยนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
5. นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 อดีตพรรคอนาคตใหม่
ชนะไปด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง 32,550 คะแนน ส่วนอันดับสองเป็นพรรคเพื่อไทย ได้ไป 30,372 คะแนน
นายอนาวิล เกิดวันที่ 26 มิถุนายน 2522 จบการศึกษาจากนิเทศศาสตรบัณฑิต (การโฆษณาและการประชาสัมพันธ์) มหาวิทยาลัยเกริก โดยมีอาชีพก่อนได้รับเลือกตั้ง คือ ธุรกิจส่วนตัว
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยัง นายอนาวิล เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด
6. นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 อดีตพรรคอนาคตใหม่
ชนะไปด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง 35,045 คะแนน ส่วนอันดับสองเป็นพรรคพลังประชารัฐ ได้ไป 30,116 คะแนน
ขณะที่ นายกิตติชัย มีอายุเพียง 31 ปีเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ มีอาชีพก่อนได้รับเลือกตั้ง คือ ธุรกิจส่วนตัว
การศึกษา
- จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
- กำลังศึกษาด้านรัฐศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ฉะเชิงเทรา
อย่างไรก็ดี นายกิตติชัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับประเด็นการย้ายพรรค โดยมีเนื้อหาใจความสำคัญว่า “ผมยังศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอยู่เสมอ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ทางการเมือง ทำให้ผมได้เป็นผู้แทนในครั้งนี้ ก็ยืนยันการทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ และทำตามมติพรรคมาโดยตลอด จนถึงนาทีสุดท้าย ที่ไม่มีพรรคแล้ว จึงตัดสินใจอันยากเย็นในครั้งนี้ เพื่อที่ต่อรอง และทำประโยชน์ให้กับฉะเชิงเทราให้ได้มากที่สุด”
7.นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 อดีตพรรคอนาคตใหม่
ชนะไปด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง 38,717 คะแนน ส่วนอันดับสองเป็นพรรคเพื่อไทย ได้ไป 29,396 คะแนน
นายฐิตินันท์ ได้รับฉายาหลังการเลือกตั้งว่า แจ็คผู้ล้มยักษ์ เพราะนายฐิตินันท์ถือว่า เป็นที่รู้จักในสนามเลือกตั้งน้อยมาก หากเทียบกับ “เสี่ยเต๋า” นายจักริน พัฒน์ดำรงจิตร อดีตแชมป์เก่าที่ครองพื้นที่มาเนิ่นนาน
การศึกษา
- นิเทศศาสตรบัณฑิต (การโฆษณา/การประชาสัมพันธ์) มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
- บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (การบริหารการจัดการ) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ประสบการณ์ที่ผ่านมา
- เคยเป็นคณะอนุกรรมาธิการและรองโฆษก สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จังหวัดขอนแก่น
- ลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จ.ขอนแก่น ปี พ.ศ. 2557
- ที่ปรึกษาคณะกรรมการผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จ.ขอนแก่น ปี 2558 - ปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยัง นายฐิตินันท์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด โดยล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายฐิตินันท์ เป็นหนึ่งในรายชื่อที่สมัครเข้าพรรคภูมิใจไทย โดยนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานว่า ในโลกสังคมออนไลน์จังหวัดขอนแก่น มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการตัดสินใจของนายฐิตินันท์อย่างกว้างขวาง
8. นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 36 อดีตพรรคอนาคตใหม่
นายวิรัช อยู่ในวัย 77 ปี จบการศึกษาจากนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีอาชีพเดิม คือ อัยการพิเศษประจำกรมอัยการ
ประสบการณ์ที่ผ่านมา
- อัยการพิเศษประจำกรม กรมอัยการ
- นิติกร 10 กรุงเทพมหานคร
- นิติกร 10 สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์
- ผู้ตรวจราชการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นายวิรัช อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงเรื่องการย้ายพรรคว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้ชักชวนมาหลายเดือนแล้ว แต่ขณะนั้นตนยังอยู่พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า ไม่มีค่าตัวใดๆ มาด้วยใจ เพราะรักในหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รู้จักกันมานาน 20 ปี ไม่มีลังเล
9. นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 47 อดีตพรรคอนาคตใหม่
นายสำลี จบการศึกษาจากมหาบัณฑิต (หลักสูตรและการสอน) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยเกิดวันที่ 12 มีนาคม 2497 ในครอบครัวชาวนาที่ขัดสน ที่บ้านดู่ ตำบลหนองแวง อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องมากถึง 12 คน แต่ขยันหมั่นเพียร จึงได้เป็นครูในที่สุด
ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายสำลี เป็นหนึ่งในรายชื่อที่สมัครเข้าพรรคภูมิใจไทย โดยนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา.